วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 | By: กาลาโต้

Cupping Street : กินได้ดื่มดี@Coffee Gallery

        หากเอ่ยชื่อ Crystal Design Center เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายคนคงจะเกิดอาการงงๆ และตอบว่าไม่รู้จัก แต่หากแทนที่ประโยคเดิมด้วยคำว่า "CDC" แล้วรับรองว่าแทบจะทุกคนต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอนเพราะว่าสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ๆ บรรดานักชอป นักชิม ทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพล้วนแต่ตั้งปณิธานไว้ว่าต้องหาโอกาสมาเยี่ยมเยือนให้ได้สักครั้งหนึ่ง เพราะ CDC นั้นถือเป็นสวรรค์ของนักชิม ที่มีร้านอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำกว่าหลายสิบร้านรวมไว้รอให้ผู้ที่ปรารถนาในรสชาติได้มาลิ้มลอง

       ผมเองก็เหมือนกับนักชิมหลายๆ คนที่เคยได้ยินกิตติศัพท์ของ CDC มานานแล้วโดยทราบว่าที่ CDC นี้ถือเป็นแหล่งรวมร้านกาแฟชั้นนำหลายร้านด้วยกัน ดังนั้นในฐานะคอกาแฟหากมีโอกาสก็อยากจะไปลิ้มลองให้ได้สักครั้งหนึ่งเพื่อที่จะได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนๆได้ว่า "CDC น่ะตรูก็เคยมาแล้วเฟ้ย!" โดยมีร้านกาแฟร้านหนึ่งอยู่ในใจตลอดที่คิดว่า ถ้ามาที่ CDC จะต้องแวะร้านกาแฟร้านนี้ให้ได้เป็นร้านแรก นั่นก็คือ ร้าน Coffee Gallery นั่นเองและในวันนี้ ฝันที่ผมหวังไว้ก็ได้กลายเป็นความจริงแล้วครับ

       ร้าน Coffee Gallery นี้ถือเป็นร้านกาแฟขนาดใหญ่ร้านหนึ่งใน CDC โดยอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามกับร้าน Starbucks มีถนนเส้นเล็กๆ คั่นกลาง บริเวณร้านแวดล้อมไปด้วยบรรดาต้นไม้ใหญ่เล็กและธารน้ำทำให้สภาพบรรยากาศของร้าน Coffee Gallery มีความร่มรื่น เป็นกันเอง และชวนให้ใช้บริการซึ่งทางร้านแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 โซนหลักคือบริเวณโซนห้องแอร์ด้านในร้านและโซนด้านนอกแบบ open air สำหรับให้ลูกค้าได้เลือกนั่งกันตามความชอบใจ โดยองค์ประกอบการตกแต่งร้านจะเน้นสีออกโทนน้ำตาล ใช้การตกแต่งด้วยไม้และกระจกเป็นหลักทำให้ดูเรียบง่ายแต่มีระดับ


       สิ่งแรกที่สะดุดตาเมื่อเดินเข้าไปในร้านก็คือป้ายเมนูขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณด้านบนของ Counter ต้องเรียกได้ว่าเป็นร้านกาแฟที่มีรายการเมนูมากเป็นอันดับต้นๆ นับตั้งแต่เคยไปเยือนร้านกาแฟร้านอื่นๆ มา โดยทางร้าน Coffee Gallery นี้จะแบ่งเมนูเป็นเมนูกาแฟร้าน เมนูกาแฟเย็น เมนูเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่ใช่กาแฟ เมนูของหวาน และที่เด็ดสุดสำหรับคนชอบทานก็คือเมนู Breakfast หรือเมนูอาหารเช้าที่ทานคู่กับกาแฟ มีให้เลือกกันอย่างจุใจเลยครับ

       ในเรื่องของราคา แม้ว่าราคาอาหารและเครื่องดื่มของที่นี่จะมีราคาสูงกว่าร้านกาแฟข้างนอกทั่วไปอยู่เล็กน้อยคือราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 80 บาทขึ้นไปสำหรับเครื่องดื่ม ส่วนขนมและอาหารราคาเริ่มต้นประมาณ 95 บาท แต่หากเทียบกับคุณภาพ รสชาติ และบรรยากาศแล้ว ราคานี้ผมถือว่ายอมรับได้ครับโดยสังเกตได้จากการที่มีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างแวะเวียนมาใช้บริการอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงบ่ายๆ จนถึงใกล้ๆค่ำคนก็ยิ่งเยอะเป็นเงาตามตัว ถึงขนาดที่ว่าทำให้บางช่วงที่นั่งของร้านด้านในไม่เพียงพอเลยทีเดียว

       เท่าที่สังเกตดูพบว่าลูกค้าของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่น โดยมักจะมากับเพื่อนเพื่อพบปะ พูดคุย หรือใช้เป็นสถานที่นัดพบก่อนที่จะไป hang out ต่อที่อื่น ในส่วนของที่มากับครอบครัวหรือมากับเพื่อนร่วมงานก็มีให้เห็นบ้าง แต่ที่แน่ๆ เลยคือลูกค้าที่มานั่งในร้านนั้นส่วนใหญ่มักจะเป็นลูกค้าขาประจำที่เคยมาใช้บริการแล้ว

       สำหรับเมนูที่ลิ้มลองในครั้งนี้คือ "Ice Latte" ครับ โดยเมื่อแรกเสริฟกาแฟกับนมจะแบ่งเป็นชั้น ต้องคนให้เข้ากันก่อนถึงค่อยดื่มความอร่อยนั้นได้ โดยรสชาติของ Ice Latte ที่นี่อร่อยดีครับเป็นกาแฟรสเข้มมีความหอมและมีรสชาติขมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเนื่องจากที่ร้านนี้เค้าคั่วบดกาแฟด้วยตัวเองดังนั้นกาแฟที่ออกมาจึงสดใหม่อยู่เสมอนั่นเอง

        ส่วนอีกเมนูหนึ่งที่ถือว่าเป็น Recommended ของที่นี่ที่ใครมาแล้วต้องสั่งให้ได้นั่นก็คือ Yuan Sandwich ครับ โดยทางเจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าถือเป็นของเด็ดของทางร้านขายดีมาก ไอ้เรามันคนเชื่อคนง่ายอยู่แล้วจึงจัดมา 1 อัน ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เพราะขนมปังเค้านุ่มมากแถมยังทาด้วยเนยเพิ่มความหอมก่อนที่จะนำเอาไก่ ไส้กรอก แฮมและผักมาปรุงรสตามสูตร โรยลงบนตัวขนมปังและราดด้วยมายองเนสปิดท้าย อร่อยดีครับกินกับ Ice Latte แล้วมีรสชาติดีมากๆ หากใครมีโอกาสมา CDC ลองแวะชิมกัน

       สรุปแล้วมื้อนี้ 2 อย่างหมดไป 220 บาท ไม่แพงเลยครับแลกกับได้ทานอาหารและกาแฟดีๆ สักมื้อแถมยังอิ่มท้องอีกด้วย อ้อ ลืมบอกไปว่านอกจากร้าน Coffee Gallery เค้าจะขายอาหารและเครื่องดื่มแล้ว เค้ายังมีเมล็ดกาแฟและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกาแฟพวก แก้วร้อน แก้วเย็น หรือพวก dripper ขายกันด้วยสำหรับคนที่ยังอยากพกพาความอร่อยไปดื่มด่ำต่อที่บ้านครับ มีหลายแบบ หลายราคา ซึ่งหากใครสนใจก็แวะเข้าไปชมกันได้ครับ

       จริงๆแล้วที่ CDC นี้ยังมีร้านกาแฟที่น่าสนใจกันอีกหลายร้านเลยทีเดียวแต่เนื่องจากใช้เวลาที่ Coffee Gallery มากไปหน่อยเลยทำให้ไปร้านกาแฟร้านอื่นไม่ทันตามที่ตั้งใจไว้แต่รับรองว่าคราวหน้าจะพาไปชิมกันอย่างแน่นอนครับ
      
       ส่วนใครเล่น instagram ก็แอดชื่อ 9galato กันได้นะครับ เพราะผมได้ถ่ายภาพร้านกาแฟร้านอื่นๆ ใน CDC ไว้ด้วย สามารถเข้าไปดูกันได้ครับ


                                                                                                                     กาลาโต้

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 | By: กาลาโต้

Cupping Street : ฉ่ำ...คอฟฟี่


"ผมพบกับร้านฉ่ำ คอฟฟี่ด้วยความบังเอิญ!"
   
       อ่านไม่ผิดหรอกครับ ผมพบกับร้านกาแฟร้านนี้ด้วยความบังเอิญจริงๆ โดยสืบเนื่องมาจากว่าวันนี้มีเหตุจำเป็นต้องนำเจ้า tablet คู่ชีพเข้าศูนย์บริการ ASUS เพียงเพราะแค่น็อตตัวเดียวที่มันอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยความโรคจิตอ่อนๆ จึงทำให้ต้องกระเสือกกระสนมายังศูนย์บริการที่อยู่ใกล้ที่สุดนั่นก็คือที่ Fortune Town (รายละเอียดเรื่องการซ่อมขอข้ามไปไม่กล่าวถึงรายละเีอียดนะครับเพราะดูไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับบทความสักเท่าไหร่) ดังนั้นผมจึงนั่งมอเตอร์ไซต์รับจ้างมายังศูนย์บริการโดยจอดด้านหลัง Fortune Town แล้วเดินเข้าไปซึ่งจะง่ายและสะดวกกว่า แต่โชคไม่ดีที่เมื่อไปถึงกลับพบว่าศูนย์บริการเค้าย้ายที่ทำการใหม่จากที่เดิมไปยังตึกชำนาญ เพ็ญชาติ ที่อยู่ถัดออกไปในละแวกนั้นประมาณเกือบๆ กิโลได้ เล่นเอาเซ็งพอควร ในขณะที่เวลาขนาดนั้นก็เกือบเที่ยงแล้ว จึงตัดสินใจที่จะฝากท้องไว้กับร้านอาหารแถวด้านหลังนั้นก่อนที่จะเดินทางไปยังจุดหมายต่อไปและด้วยสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้ผมได้พบกับร้านกาแฟร้านนี้และทำให้เป็นที่มาของบทความในตอนนี้นั่นเองครับ


       มีใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า "ของบางอย่างหาเท่าไหร่กลับไม่เจอ แต่เมื่อเราไม่คิดที่จะหากลับพบพาน" ผมเพิ่งตระหนักถึงคำพูดดังกล่าวในวันนี้เอง เชื่อหรือไม่ครับ ผมเองมา Fortune Town โดยใช้เส้นทางด้านหลังนี้มานับไม่ถ้วนกลับไม่เคยเห็นร้าน "ฉ่ำ คอฟฟี่" เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ในวันนี้ไม่ได้ตั้งใจจะหาร้านกาแฟเลย แค่เดินหาร้านขายข้าวเพื่อฝากท้องสักมื้อ กลับพบว่าร้าน "ฉ่ำ คอฟฟี่" ห่างจากทางเข้าด้านหลังห้างไม่ถึง 20 ก้าวเท่านั้นเอง! เมื่อเจออย่างนี้เข้าจะช้าอยู่ใย หลังจากทานข้าวหมูแดงจานใหญ่หมดก็ได้เวลาเดินกลับมายังร้านกาแฟแห่งนี้เพื่อลิ้มลองฆ่าเวลาก่อนที่จะเดินทางต่อไปเพื่อทำธุระที่ค้างคาให้เสร็จสิ้นในช่วงบ่าย


       ร้านฉ่ำ คอฟฟี่ หรือ ฉ่ำ กาแฟสด หรือร้านฉ่ำของผู้คนในละแวกนั้นตั้งอยู่บริเวณด้านหลัง Fortune Town อยู่ชั้นล่างของอาคาร พาราไดซ์เพลส บริเวณห้องหัวมุมติดกับร้านเสริมสวยบัว ขนาดของร้านไม่ใหญ่มากนัก ผู้ที่จะมาอาจจะต้องใช้ความพยายามสักนิดในการสังเกตเนื่องจากทางร้านยังไม่ได้ทำป้ายขนาดใหญ่ติดบริเวณหน้าร้าน ดังนั้นให้สังเกตกระดานดำขนาดยาวที่ตั้งอยู่เขียนคำว่า "ฉ่ำ" เด่นเป็นสง่าเป็นหลักครับ


       บรรยากาศเมื่อเข้าไปในร้านพบว่ามีสภาพแตกต่างกับด้านนอกอย่างเห็นได้ชัด ด้านในมีการตกแต่งร้านแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ มีการจัดโต๊ะเก้าอี้อย่างมีระเบียบเพื่อให้ลูกค้าได้นั่งรับประทานในร้าน และที่สำคัญคือ "เงียบสงบ" ดีครับ ผมชอบมาก


       เมื่อได้พูดคุยกับบาริสต้าของร้านที่คาดคะเนจากสายตาดูอายุยังไม่เยอะมากนัก (ไม่ 20 ปลายๆก็ 30 ต้นๆ) และน่าจะเป็นเจ้าของร้าน "ฉ่ำ" ก็ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้ผมมากขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าร้าน "ฉ่ำ" นี้ เปิดให้บริการคอกาแฟมาเกือบจะครบ 2 ปีแล้ว แทบไม่น่าเชื่อว่าร้านที่ไม่เป็นที่สังเกตแห่งนี้จะอยู่ได้นานขนาดเกือบ 2 ปี ทำให้พาลคิดไปถึงว่าแบบนี้แล้ววันๆ หนึ่งจะขายได้สักกี่แก้วกัน แต่แล้วสิ่งที่คิดก็ได้รับคำตอบเพราะเวลาไม่ถึง 1 ชั่้วโมงที่ผมสิงสถิตย์อยู่ในร้านนี้ มีลูกค้า่เข้ามาซื้อเครื่องดื่มกันเรื่อยๆ รวมๆ ที่นับได้ไม่น้อยกว่า 15 แก้ว มีทั้ง walk in เข้ามาและโทรศัพท์มาสั่ง ที่น่าแปลกใจคือลูกค้าเหล่านั้นหลายๆ คนเป็นพนักงาน True เสียด้วยสิ!


       เครื่องดื่มในร้าน ฉ่ำ คอฟฟี่ ก็เหมือนร้านกาแฟทั่วๆ ไป คือมีกาแฟเป็นเมนูมาตรฐาน เสริมด้วยชาและนม อัตราค่าเครื่องดื่มก็ไม่แพงมาก โดยราคาต่ำสุดอยู่ที่ 30 บาืทเรื่อยไปจนถึงสูงสุด 50 บาท ตามแต่ประเภท อีกทั้งเจ้าของร้านยังอัธยาศัยดีเป็นกันเอง นี่คงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ลูกค้าพร้อมใจกันเข้ามาใช้บริการเป็นขาประจำทั้งๆ ที่ร้านนี้เค้าไม่มีโปรโมชั่นสะสมแต้มหรือโปรโมชั่นอะไรมัดใจลูกค้าเลย

  
       สำหรับเครื่องดื่มที่สั่งในวันนี้ ผมเลือกที่จะสั่ง "Ice Latte" หวานน้อย เพียงไม่กี่อึดใจ กาแฟลาเต้แก้วน้อยก็มาวางอยู่ตรงหน้าผม สีสันกาแฟนี่สอบผ่านเลยครับ กลิ่นหอมก็ใช้ได้ เมื่อดูดเข้าคออึกแรกพูดได้คำเดียวครับว่า "อร่อย" ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าร้านกาแฟที่่ดูด้านนอกเหมือนจะพื้นๆ จะมีกาแฟรสชาติดีแบบนี้หลบซ่อนอยู่ คิดไม่ผิดครับที่ตัดสินใจเข้ามาลองในวันนี้ อย่างน้อยก็สอนให้เรารู้ว่า ของบางอย่างมองแต่เพียงภายนอกกันไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้เข้าไปสัมผัสก็อย่าเพิ่งตัดสินว่าดีหรือไม่ดี พวกข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง เดี๋ยวนี้มีเยอะแยะครับ

       "ฉ่ำ....อาจจะเป็นชื่อเล่นของเจ้าของร้าน"

       "ฉ่ำ...อาจจะเป็นชื่อทึ่มๆ ที่เจ้าของร้านตั้งขึ้นเพื่อให้คนจดจำ"

       "ฉ่ำ...อาจจะเป็นชื่อที่ความเกี่ยวข้องกับความทรงจำของเจ้าของร้านแล้วนำมาตั้ง"


       แต่ไม่ว่า "ฉ่ำ" จะหมายถึงอะไรและมีที่มาจากไหน มันคงไม่มีความสำคัญสำหรับผมและผมคงไม่คิดหาคำตอบกับสิ่งๆนี้อีกต่อไป เพราะผมรู้ตัวเองดีว่า

"แค่เพียงกาแฟสักแก้วของร้านนี้ก็ช่วยเติมเต็มความชุ่มฉ่ำของร่างกายและจิตใจของผมให้มีแรงและกำลังฮึดสู้ที่จะเผชิญหน้ากับเรื่องราวต่างๆ ที่รอผมอยู่เบื้องหน้าอย่างไม่หวั่นไหว"...


                                                                                                                กาลาโต้


ปล.ร้าน ฉ่ำ คอฟฟี่เปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00 - 17.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุดครับ



วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 | By: กาลาโต้

Cupping Street : ดื่มแล้วตาโตกับ Alto Coffee



       สวัสดีคนรักกาแฟทุกคนครับ เมื่อวานได้มีโอกาสไปห้างสรรพสินค้าย่านชานเมืองแห่งหนึ่งแถวบางนาแถมห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในย่านนั้นนั่นก็คือ "Mega บางนา" ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปในวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมานั่นเอง ดังนั้นตามสไตล์คนรักกาแฟจึงต้องหาร้านกาแฟที่น่าสนใจในย่านนั้นมาฝากเหล่าผองเพื่อนที่อาจจะมีโอกาสไปแถวนั้นได้แวะดื่มชิมกันหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการเดินชอปปิ้งและวันนี้เราก็มีร้านกาแฟน่ารักๆ ร้านหนึ่งมานำเสนอนั่นก็คือร้าน "Alto Coffee" ครับ



       ชื่อ Alto Coffee อาจจะดูแปลกใหม่และไม่คุ้นหูคอกาแฟเท่าไหร่นัก (รวมถึงตัวผมเองด้วย @^_^@) แต่เชื่อไหมครับว่าประวัติความเป็นมาของร้านนี้ช่างยาวนานนักโดยเริ่มตั้งแต่ครอบครัวเป็นผู้ประกอบธุรกิจคั่วกาแฟมาตั้งแต่ปี 2503 และดำเนินการพัฒนาจนกลายมาเป็นมีร้านกาแฟเป็นของตัวเองในปัจจุบัน โดยมีสาขา 2 สาขาคือสาขาแรกที่อาคาร Ital-Thai และสาขาน้องใหม่คือสาขา Mega บางนา ที่เราพามาแวะชิมในครั้งนี้ครับ



       ร้าน Alto Coffee สาขา Mega บางนา ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของห้างสรรพสินค้า Mega บางนาอยู่ติดทางออกที่เชื่อมออกไปยังโซนร้านอาหาร โดยมีจุดสังเกตที่เด่นชัดก็คือโลโกรูปนกฮูกครับ
       ตอนแรกเองผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจดีว่าทำไมทางร้านจึงเลือกใช้รูปนกฮูกเป็นสัญลักษณ์เพราะนกฮูกนั้นในภาษาสากลหมายถึงสติปัญญา ความรอบรู้ แต่เมื่อลองเข้าไปในร้าน สัมผัสกับ symbolic ที่ร้านต้องการนำเสนอเลยทำให้รู้ว่าสาเหตุที่ร้านเลือกที่จะใช้สัญลักษณ์นกฮูกเป็นโลโก้นั้นก็เพราะว่ากาแฟร้านนี้ดื่มแล้วตาโตเป็นนกฮูก ไม่หลับไม่นอน นั่นเองครับ ฮา ฮา (เป็นการเปรียบเปรยว่ากาแฟมีฤทธิ์ดื่มแล้วไม่ง่วง ดังนั้นคนดื่มกาแฟร้านนี้แล้วก็ไม่ง่วง ตาโตเหมือนนกฮูกที่ออกหากินยามค่ำคืนนั่นเองครับ)



       สินค้าที่ให้บริการในร้าน Alto Coffee นั้นมีทั้งกาแฟ ช็อคโกแลต ชา ให้เลือกลิ้มลองกันหลายเมนูด้วยกันในราคามาตรฐานร้านกาแฟระดับพรีเมี่ยมทั่วไป แต่ต้องขอบอกว่ารสชาติกาแฟของที่นี่รับรองเข้มข้นได้ใจมากครับเพราะทางร้านเขียนบอกไว้เลยว่ากาแฟของร้านทุกรายการเสริฟด้วยกาแฟ 2 shot ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัวว่าจะได้กาแฟที่รสชาติไม่เข้มข้นและแน่นอนว่าหากใครไม่ใช่คอกาแฟตัวจริง โดนกาแฟร้านนี้ไปสักแก้วรับรองตาโตเหมือนนกฮูกแน่นอนครับ @^_^@



       นอกจากความประทับใจในเรื่องของความเข้มข้นของกาแฟที่เสริฟ double shot แล้วอีกอย่างที่ชอบเป็นพิเศษก็คือเมนูของที่นี่ครับ ถ้ามองดูเมนูที่ผมถ่ายมาจะเห็นว่าเครื่องดื่มบางรายการจะมีรูปนกฮูกอยู่ด้านหน้า เมื่อถามบาริสต้าก็ได้รับคำตอบว่าหากเครื่องดื่มชนิดใดมีรูปนกฮูกข้างหน้าจะหมายความว่าเครื่องดื่มนั้นเป็นเครื่องดื่มแนะนำของทางร้านครับ อ้อลืมบอกไป เครื่องดื่มของที่นี่นอกจากจะ request ได้ว่าหวานมาก หวานน้อยแล้ว ลูกค้ายังสามารถเปลี่ยนชนิดของนมที่เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มได้อีกด้วยโดยจะมีนมแบบธรรมดา นมแบบ Low Fat หรือ นมถั่วเหลือง ต้องการแบบไหนก็สามารถบอกบาริสต้าได้ครับ ซึ่งหากเป็นนม 2 ชนิดแรกไม่ต้องเพิ่มเงินแต่หากเป็นนมถั่วเหลืองเพิ่ม 20 บาทครับ



       บนป้ายเมนูใหญ่ตรงกลางเหนือหัวบาริสต้ามีข้อความเขียนเป็นภาษาอังกฤษสื่อความหมายว่าร้านกาแฟ Alto Coffee นี้แตกต่างจากร้านอื่นอย่างไร มีอยู่ 3 ข้อด้วยกันขออนุญาตนำมาลงให้อ่านกันนะครับ

       1.We select and use only Premium grade coffee beans. (เราเลือกใช้แต่เมล็ดพันธุ์คุณภาพดีเท่านั้น)

       2.The Beans are always freshly roastedto bring out the best flavors. (เมล็ดกาแฟที่ใช้เราคั่วใหม่อยู่เสมอเพื่อให้ได้กลิ่นและรสชาติที่ดี)

       3.We grind and make each new cup just for you. (เราบดกาแฟแก้วต่อแก้วเพื่อทำกาแฟให้คุณ)

       ดูเหมือนว่า  3 ขั้นตอนดังกล่าวที่ทาง Alto Coffee กล่าวมานั้นมีส่วนสำคัญทำให้กาแฟของร้านนี้อร่อยขึ้นกว่าเจ้าอื่นๆ ซึ่งก็เป็นจริงตามนั้นครับ การันตี




       เนื่องจากวันที่ไป Mega บางนานั้นยังป็น Soft Opening อยู่ ดังนั้นบรรยากาศในร้าน Alto Coffee เลยดูโล่งๆ ไปบ้างแต่ก็ยังดูสวย คลาสสิค ลงตัวจนทำให้อดเก็บภาพมาลงให้ดูไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่ตกแต่งร้านเสร็จสมบูรณ์แล้ว ต้องแวะไปใช้บริการอีกรอบและเก็บภาพความสวยงามของร้านที่สมบูรณ์แล้วมาให้ดูกันอย่างแน่นอน ขอสัญญา....


                                                                                                                               กาลาโต้




วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 | By: กาลาโต้

Enpresso : เพลงกาแฟ By วัชระ ปานเอี่ยม


       สวัสดีครับชาวคนรักกาแฟทุกคน สำหรับ section Enpresso นี้ถือเป็น section ใหม่ที่จะเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ blog เรื่องของคนรักกาแฟนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปนะครับ โดยจะนำเสนอเรื่องราวความบันเทิงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกาแฟไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ดนตรีหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เห็นว่าเหมาะสมตามโอกาสหวังว่าคงได้รับการตอบรับจากทุกๆ ท่านเหมือน section อื่นๆ ของ blog เรานะครับ

       แรกเริ่มเดิมที Blog ในตอนที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี้ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับกาแฟเพราะเตรียมเนื้อหา เรื่องราวของภาพยนตร์ต่างๆ ไว้พร้อมเขียนอยู่แล้ว แต่เมื่อเปิดอินเตอร์เน็ต search หาข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม ทำให้ได้พบกับเพลงๆ หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกาแฟ เมื่อฟังๆ ดูเนื้อหามีความน่าสนใจมาก ทำนองก็เพราะแถมยังได้นักร้องนำมือหนึ่งของไทยมาขับร้องให้อีกจึงทำให้ต้องตัดสินใจนำเรื่องของเพลงๆ นี้แทรกมาลงโดยทันทีครับกับเพลงที่ชื่อว่า "กาแฟ"


       เพลงกาแฟเพลงนี้เป็นผลงานการแต่งเนื้อร้องและทำนองโดยคุณอั๋น ศิริพงษ์ หนึ่งในคนรักกาแฟที่นำเอาเรื่องราวของกาแฟที่ได้พบปะอยู่ทุกวันมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเนื้อเพลงและเรียบเรียงเนื้อร้องโดยเจ้าของนามปากกาชื่อ "โป๊ะ" ที่เด็ดที่สุดของเพลงนี้เห็นจะเป็นตัวนักร้องที่มาขับร้องเพลงนี้นั่นก็คือคุณวัชระ ปานเอี่ยม หรือพี่เจี๊ยบของพวกเรา หนึ่งในสมาชิกวงเฉลียงที่มีผลงานเพลงมากมาย เชื่อว่าคนอายุ 30 อัพขึ้นไปต้องรู้จักพี่เจี๊ยบและวงเฉลียงแน่นอน

       หากคุณผู้อ่านลองสังเกตเพลงต่างๆ ในอดีตและปัจจุบันให้ดีๆ จะพบว่าหากเพลงใดก็ตามที่เขียนหรือแต่งขึ้นมาจากประสบการณ์จริงหรือประสบการณ์ตรงที่ได้พบเจอกับตัว เพลงๆนั้นย่อมจะสื่อสารกับคนฟังได้อย่างตรงไปมา ชัดเจน ไม่คลุมเครือ และหากผู้ฟังเองเคยอยู่ในอารมณ์หรือเคยมีประสบการณ์เดียวกันกับเรื่องในเนื้อเพลงนั้นๆด้วยแล้ว ย่อมทำให้เพลงดังกล่าวอยู่ในสภาวะ "อิน" และ "โดน" ใจผู้ฟังอย่างแน่นอน ไม่เว้นแม้แต่เพลงนี้ครับ

       เพลงกาแฟนี้ผู้แต่งได้นำเอาช่วงอารมณ์ของกาแฟมาแต่งเป็นเพลงซึ่งเชื่อว่าคนรักกาแฟคงมีช่วงอารมณ์แบบนี้กันทุกคน อารมณ์ที่สบายๆ ในระหว่างที่นั่งดื่มกาแฟ หลีกหนีจากเรื่องวุ่นวายชั่วคราว พักกาย พักใจ ดื่มกาแฟแม้จะเป็นช่วงระยะเวลาเพียงสั้นๆ แต่ก็ทำให้เราเสริมสร้างพลังและกำลังใจก่อนที่กลับไปเผชิญเรื่องราวที่วุ่นวายต่อไป บางคนระหว่างนั่งทานกาแฟไปก็หากระดาษ ปากกา หรือหยิบ Notebook มาจด มาพิมพ์สิ่งที่ตนนึกขึ้นได้ในขณะนั้นเพื่อนำมาสร้างสรรค์ผลงานออกมา ซึ่งมีหลายคนและหลายครั้งเลยครับที่ผลงานดีๆหรือไอเดียดีๆ เกิดขึ้นจากโต๊ะกาแฟ ในตอนที่ดื่มกาแฟนั่นเอง!
       สำหรับบางคนมิตรภาพอาจจะก่อกำเนิดขึ้นที่ร้านกาแฟก็เป็นได้หรือแม้กระทั่งความทรงจำ เรื่องราวต่างๆ บางทีก็ผุดออกมาในขณะนั่งดื่มกาแฟอีกด้วยครับ นี่แหละครับอารมณ์กาแฟที่ผมพูดถึง!

       สิ่งหนึ่งที่ผมชอบเป็นพิเศษนอกเหนือจากทำนองที่สบายๆ ที่ชวนให้นึกถึงกาแฟรสชาตินุ่มๆ สักแก้ว แล้วนั่นก็คือการใช้คำ การเล่นคำในเพลงที่ทำให้ผู้ฟังเกิดอาการประเภทที่ว่า "เออแฮะ" หรือ "คิดได้ไงเนี่ย" และคำหรือประโยคเหล่านั้นเองทำให้เรา "อิน" ไปกับเพลงโดยไม่รู้ตัว อาทิเช่นท่อนที่ว่า
      
       "หัวใจเมื่อก่อนมันเต้นถี่แต่วันนี้มันกลับเต้นช้าลง"

       ใครๆ ก็รู้กันดีครับว่ากาแฟมีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาททำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น แต่เพลงนี้กลับบอกว่าเต้นช้าลง ซึ่งความหมายไม่ได้หมายถึงกาแฟจริงๆ หากแต่หมายถึงช่วงเวลาอารมณ์ที่เราละเลียดจิบกาแฟนั่นเป็นช่วงเวลาที่สบายๆ ช่วงเวลาที่ทิ้งความทุกข์ ความรีบเร่งต่างๆ ไว้เบื้องหลังเป็นช่วงเวลาที่ไม่รีบเร่ง ใช้เวลาดื่มด่ำกับกาแฟแก้วของเราให้นานๆ นั่นเองครับ

"ที่ๆ จินตนาการพบแรงบันดาลใจ สะสมไว้ในถ้วยความทรงจำ"

       ท่อนนี้ก็เช่นกันครับ คิดได้อย่างไรกันนี่ว่าร้านกาแฟเป็นที่ๆ ทำให้เกิดจินตนาการและแรงบันดาลใจ ในการทำงานหรือรังสรรค์งานอะไรสักอย่างแถมยังมีการเปรียบเปรยถึงแก้วกาแฟที่เราทานด้วยว่าเป็นถ้วยแห่งความทรงจำ เป็นยังไงล่ะครับ

       ผมเองก็ไม่ใช่นักฟังเพลงหูเทพเหมือนใครๆ และก็ไม่ใช่นักวิจารณ์เพลงตัวพ่อเหมือนกูรูชั้นนำแต่เมื่อฟังเพลงนี้แล้วผมกล้าฟันธงเลยว่าเพลง "กาแฟ" เพลงนี้ถือกำเนิดมาจากคนรักกาแฟเพื่อคนรักกาแฟอย่างแท้จริงครับ คุณอั๋นแกบอกมาว่าเพลงกาแฟนี้เป็นเพลงแรกในอัลบั้ม Project อัลบั้มพร้อมดิ่มซึ่งจะมีเพลงที่เกี่ยวข้องกับ ไวน์ เหล้า เบียร์ นม น้ำ อันเป็นเพลงในอัลบั้มมาให้ฟังกันในเร็วๆ นี้ หากใครชอบเพลงกาแฟเพลงนี้ก็อย่าลืมฟังเพลงอื่นๆของคุณอั๋นแล้วมาช่วยกันคิดว่า "ดี" เหมือนเพลง "กาแฟ" หรือไม่ และหากใครอยากพูดคุยกับคุณอั๋นเจ้าของเพลงก็เมล์ไปคุยกันได้นะครับที่ aun9aun@hotmail.com ครับ คุณอั๋นยินดีตอบทุกฉบับ

       ทิ้งท้าย blog ในตอนนี้ไว้ด้วยเนื้อเพลงและ chord กีตาร์ของเพลงกาแฟเผื่อใครจะนำไปเล่นระหว่างนั่งจิบกาแฟคุณอั๋นเค้าไม่หวงครับ!

                                                                                                                        กาลาโต้