วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2558 | By: กาลาโต้

Cupping Street : Ten Thirty Cafe กาแฟก็ดี (ผู้ชายก็) มีให้ดู



สวัสดีครับคนรักกาแฟทุกท่าน ผมเองเชื่อเหลือเกินครับว่าสำหรับคนที่ไปดื่มกาแฟตามร้านกาแฟต่างๆ นั้นส่วนใหญ่แล้วมักจะมีเหตุผลสำคัญคือเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า หรือแม่แต่นั่ง slow life ก่อนที่จะไปทำอย่างอื่นซึ่งคงต้องบอกเลยครับว่ากาแฟนั้นมีส่วนช่วยให้คุณๆ ได้ผ่อนคลายความเครียดดังกล่าวได้ส่วนหนึ่งและถ้าหากบรรยากาศภายในร้านชวนให้นั่ง ชวนให้มองแล้วล่ะก็รับรองได้ว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากเลยทีเดียวดังนั้นในบทความตอนนี้ผมจึงขอนำทุกท่านไปรู้จักกับร้านกาแฟร้านหนึ่งที่ถึงแม้ว่าเปิดมาไม่นานแต่ก็มีคนพูดถึงและกล่าวขวัญเป็นอย่างมากเพราะนอกจากกาแฟที่เป็นอาหารปากที่สุดยอดแล้ว เรื่องอาหารตาก็มีให้อิ่มเองด้วยไม่แพ้กันซึ่ง “Ten Thirty Café” ก็คือร้านที่ผมพูดถึงนั่นเอง



ร้าน Ten Thirty Café นั้นต้องถือว่าเป็นร้านกาแฟน้องใหม่ที่มาแรงเลยทีเดียวครับเพราะเนื่องจากว่าเป็นร้านกาแฟที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงที่อยู่ย่านกลางเมืองโดยอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงภาพยนตร์เมเจอร์ รัชโยธิน พอดิบ พอดีดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงเป็นสถานที่ Hang Out นั่งเล่นฆ่าเวลาก่อนหนังจะเข้าโรงหรือเป็นสถานที่นัดพบปะเพื่อนฝูงได้เป็นอย่างดีและที่สำคัญพวกฟรีแลนซ์ที่ต้องการสถานที่ทำงานแบบชิลๆ หรือพวกนักเรียนนักศึกษาที่อยากหาสถานที่อ่านหนังสือหรือทำรายงานที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งสวรรค์เลยครับและด้วยสถานที่ๆ กว้างขวางและบรรยากาศดีนี้เองทำให้องค์กรหลายองค์กร บริษัทหลายบริษัทเลือกที่จะใช้ร้าน Ten Thirty café นี้จัดงานอบรมสัมมนากันอยู่เสมอๆ



แต่นั่นเป็นจุดเด่นที่ยังไม่โดดเด่น!



เพราะจุดเด่นของร้าน Ten Thirty Café ที่ทำให้คอกาแฟและคนที่ไม่ใช่คอกาแฟโดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวๆ รู้จักร้านนี้กันอย่างรวดเร็วก็คือบรรดาบาริสต้าหล่อ หุ่นดี หน้าตาน่ารัก ที่มีคิวผลัดเวรกันมาทำกาแฟอร่อยๆ ให้ทานกันนั่นเองครับซึ่งทันทีที่มีการพูดถึงในโลก Social Media ได้ไม่นานก็มีคนมาเยี่ยมเยียนร้านกาแฟร้านนี้อย่างไม่ขาดสายบ้างก็มาชิมกาแฟ บ้างก็มาชิมอาหารตาซึ่งก็ว่ากันไปครับ



หลังจากที่ได้มีการพูดคุยและหาข้อมูลของร้าน Ten Thirty Café ทั้งจากสื่อต่างๆ และลงพื้นที่จริงจึงทำให้รู้ว่าเจ้าของกิจการนั้นเคยเปิดบริษัททำออแกไนเซอร์มาก่อน จากนั้นเมื่อมาเปิดร้านกาแฟก็ดึงเอาบรรดานายแบบนางแบบในสังกัดมาร่วมงานด้วยเพื่อเป็นจุดเติมเต็มของร้านกาแฟเพราะทางเจ้าของกิจการเองมีความเชื่อว่าการที่พนักงานหน้าตาดี บริการดี บรรยากาศดี กาแฟดี จะทำให้การรับประทานกาแฟในมื้อนั้นๆ ดีที่สุดซึ่งก็ถูกต้องเลยทีเดียวครับ



มาถึงตอนนี้หลายคนที่ไม่เคยไปใช้บริการอาจจะสงสัยและคิดในใจว่าคงจะเป็นเพียงแค่เอารูปร่างหน้าตามาเป็นจุดขายแต่การชงกาแฟก็งั้นๆ ซึ่งต้องบอกว่าคิดผิดครับเพราะบาริสต้าโมเดลทีเป็นนายแบบนางแบบเหล่านี้ต้องมีการเข้าคอร์สฝึกอบรมการชงกาแฟจนถึงขั้นเป็นบาริสต้าจริงๆ ได้เสียก่อนจึงจะมายืนหน้าเคาน์เตอร์ได้ไม่อย่างนั้นแล้วต้องให้หล่อให้สวยแค่ไหนหมดสิทธิ์ครับและก็ต้องบอกว่ากาแฟของเขานั้นอร่อยจริง อะไรจริงครับ



พูดไปจะหาว่าเชียร์ จะหาว่าโม้ เอาเป็นว่า หากใครอยู่ใกล้หรือมีโอกาสไปดูหนังแถวก็ลองไปใช้บริการดูนะครับเพราะกาแฟที่นี่ราคาถูกกว่าค่าตั๋วหนังสักเรื่องหนึ่งอีก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใครไปในช่วง 4 โมงเย็นถึงเที่ยงคืนซึ่งเป็นช่วงที่บาริสต้าโมเดลออกมาชงกาแฟด้วยแล้วรับรองได้ว่าได้ทั้งอิ่มท้องและได้ทั้งอิ่มตาอย่างแน่นอน



ส่วนคำถามสุดท้ายที่ถามมาว่าทำไมต้องชื่อ Ten Thirty นั้นก็เพราะว่า

“เวลา 10.30 น.นั้นเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดกับการดื่มกาแฟ” นั่นเองครับ!

                                                                                                                   กาลาโต้
วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558 | By: กาลาโต้

My Cup : แรกพบประสบพักตร์ Nescafe Dolce Gusto Genio 2 Titanium






สวัสดีคนรักกาแฟทุกท่านครับ ช่วงนี้หลายท่านอาจจะแปลกใจว่าผมนั้นไปไหน เหตุใดจึงส่งข่าวสารแต่ใน facebook กับ line@ แต่เพียงอย่างเดียว ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเหตุผลสองประการครับประการแรกคือช่วงนี้ติดงานค่อนข้างเยอะเลยไม่ค่อยมีเวลาไปตามร้านกาแฟสักเท่าไหร่และประการที่สองก็คือผมเพิ่งได้เจ้าอุปกรณ์กาแฟตัวใหม่มาใช้และก็กำลังเพลิดเพลินกับมันซึ่งหลังจากที่ใช้มาได้สักระยะระหนึ่งแล้วก็พบว่ามันมีอะไรหลายอย่างที่คิดว่า “โดน” คอกาแฟจึงได้นำมาเขียนเล่าสู่กันฟังครับ



สำหรับเจ้าอุปกรณ์หรือเครื่องชงกาแฟที่ว่านี้หลายท่านอาจจะมองว่าเป็นเครื่องชงกาแฟสดแบบเลิศหรู อลังการหรือเป็นเครื่องชงระดับหลักหมื่น หลักแสน ซึ่งท่านกำลังคิดผิดครับเพราะเครื่องชงที่ผมพูดถึงนี้เป็นของที่มีราคาเพียงแค่หลักพันแต่สามารถผลิตกาแฟดีๆ ให้เราได้รับประทานกันนั่นก็คือเครื่องชงกาแฟ Nescafe Dolce Gusto นั่นเองครับ


ต้องยอมรับครับว่าผมเองนั้นส่วนใหญ่จะไม่ค่อยสันทัดในเรื่องของการชงกาแฟสักเท่าไหร่ เพราะเป็นรนักชิมทมากกว่านักทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกาแฟแนว instant ที่ไม่ใช่กาแหสดแล้วผมแทบจะไม่ตะแต่เมื่อไม่นานมานี้มีเหตุที่ได้เครื่องชงกาแฟจากญาติกันโดยเครื่องชงกาแฟที่ว่านี้มีชื่อเรียกว่า “Genio Titanium” มา นั่นจึงเป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกับกาแฟแบบแคปซูลซึ่งเราจะได้บรรยายกันต่อไป


หลายคนที่ไม่เคยใช้เครื่องชงกาแฟแบบ capsule มาก่อนไม่ว่าจะเป็นของ Nescafe Dolce Gusto เองหรือจะเป็นของยี่หอ้อื่นก็ตามอาจจะนึกหน้าตาของมันไม่ออกว่าเป็นอย่างไรซึ่งลักษณะของเครื่องนั้นจะเหมือนกับเครื่องที่ผมใช้งานอยู่คือมีลักษณะเป็นแท่งๆ ขึ้นไปด้านหน้ามีช่องว่างเพื่อวางแก้วกาแฟสำหรับรองรับน้ำกาแฟ

ทีนี้กลับมายังเครื่อง Genio Titanium ของผมกันบ้างดีกว่าครับ!



สืบเนื่องจากว่าผมเองไม่เคยใช้เจ้าเครื่องแบบนี้มาก่อนดังนั้นเมื่อได้มาผมจึงได้ลองหาข้อมูลจากแหล่งต่างและได้พบว่าเจ้าตัว Genio Titanium นั้นเป็นตัวที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจาก Genio ตัวแรกและมีคุณสมบัติพิเศษที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมคือตัวเครื่องจะบรรจุปริมาณน้ำได้มากขึ้นแถมยังมีระบบฟังค์ชั่นพิเศษที่ช่วยให้เราทำกาแฟในแก้วขนาดใหญ่ไซส์ XL ได้ในคราวเดียวกันรวมไปถึงจุดเด่นในเรื่องของแรงดันที่มีความดันแรงถึง 15 บาร์ซึ่งเป็นระดับที่ทำให้กาแฟมีครีมาออกมาสวยอีกด้วย

จากการทดลองทำแบบงูๆ ปลาๆ ของผมพบว่าเจ้าเครื่องที่ว่านี้ใช้งานได้ง่ายมากเลยทีเดียวครับเพราะแม้แต่คนที่ไม่รู้เรื่องอย่างผมยังสามารถทำได้ด้วยตัวเองส่วนรสชาตินั้นไม่ต้องพูดถึงครับ ถ้าไม่ดีจริง ไม่ร่อยจริง มันคงไม่ดึงดูดผมให้ใช้เวลาสนุกสนานไปกับมันนานสองนานแบบที่เป็นอยู่นี้หรอกครับ



แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าผมเองไม่ถนัดกับการอัดคลิปการใช้งานเพราะเนื่องจากว่าเครื่องไม้เครื่องมือไม่อำนวยดังนั้นจึงขออนุญาตเอาคลิปที่เขานำเสนอมาให้ทุกท่านได้ดูแทนครับแต่รับรองได้ว่าทำออกมาเหมือนในคลิปแบบไม่มีผิดเพี้ยนอย่างแน่นอนและถ้าหากใครอยากรู้ว่ามันมีคุณประโยชน์อย่างอื่นยังไงก็เข้าเว็บไซต์ http://nescafedolcegusto.popsho.ps/th/machines/genio/genio-titanium.html เพื่อไปดูข้อมูลได้โดยตรงเลยก็ได้ครับ สวัสดีครับ


                                                                                                               กาลาโต้