วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 | By: กาลาโต้

เราเกิดในรัชกาลที่ ๙ เดอะซีรีส์


ทุกท่านครับ

       ถ้าจะมีหนัง ละคร หรือภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่งที่นักแสดงๆ ได้สมบทบาท มีความเหมือนจริงมากที่สุดแล้วล่ะก็ ผมเองคงจะต้องยกให้ละคร "เราเกิดในรัชกาลที่ ๙ เดอะซีรีส์" ละครซีรีย์ของคนไทยที่ชื่อเรื่องมันสุดแสนจะธรรมดาๆ ไม่ได้มีความพิเศษหรือน่าสนใจอันใดแต่ทว่ามันเองกลับมีพลังที่ทำให้คนไทยรู้สึกซาบซึ้งไปกับมันเพราะผมเองเชื่อว่านักแสดงทุกคนที่ได้แสดงในเรื่องนี้มันไม่ได้คิดว่าทั้งหมดคือการแสดงแต่มันเป็นความรู้สึกที่แท้จริงที่กลั่นออกมาจากหัวใจของนักแสดงทุกคนโดยที่ไม่ต้องมีใครมาสั่งในทันทีที่ได้ยินคำว่า

"...ในหลวงสวรรคต..."


       "เราเกิดในรัชกาลที่ ๙ เดอะซีรีส์" เป็นละครเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศ รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ที่ออกจะแปลกแหนวกว่าละครเทิดพระเกียรติเรื่องอื่นๆ ที่เคยมีมาและเชื่อว่าน่าจะเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจให้กับละครเทิดพระเกียรติเรื่องอื่นๆ นับต่อแต่จากนี้ไปโดยเป็นการนำเสนอเรื่องราวเหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติไทยในช่วง 10 วันแรกของการเสด็จสูสวรรคาลัยของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2559 อันป็นวันที่สำนักพระราชวังประกาศข่าวการสววรคตเรื่อยไปจนกระทั่งถึงวันที่ 22 ตุลาคม 2559 วันที่คนไทยทั้งประเทศมีโอกาสร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีครั้งที่ยิ้งใหญ่ที่สุดเพื่อเป็นการอาลัยพระองค์ ณ ท้องสนามหลวงโดยในช่วงเหตุการณ์แต่ละวันนั้นได้มีการบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นเอาไว้ตามความเป็นจริงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเคลื่อนขบวนพระศพจากโรงพยาบาลศิริราชสู่พระบรมมหาราชวัง การแตกแยก การแบ่งแยกทางความคิดกันในเรื่องของสีเสื้อ เรื่องราวของการทำดีเพื่อในหลวงด้วยการขับรถรับส่งเป็นพระราชกุศลฟรี และอื่นๆ อีกมากแต่เหนือสิ่งอื่นใดที่มีการสอดแทรกเอาไว้ในละครตลอดทั้งซีรีส์ก็คือคำสอนและคุณงามความดีอพระองค์ที่พระองค์ได้ปูทางเอาไว้มากว่า 70 ปีเพื่อให้คนไทยเราปฏิบัติตาม ดังนั้นถ้าหากจะบอกว่าละคร "เราเกิดในรัชกาลที่ ๙ เดอะซีรีส์" เป็นจดหมายเหตุทางประวัติศาสตร์ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 9 เล่มหนึ่งก็คงจะไม่ผิดหรือเกินเลยสักเท่าไหร่นัก




       จุดหนึ่งที่ผมมองว่าเป็นที่น่าสนใจยิ่งนักก็คือในฉากที่นักโทษหรือผู้ต้องหาที่ทำความผิดและถูกขังตัวอยู่ในโรงพักถึงกับร้องไห้กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวเมื่อได้ข่าวการสวรรคตของพระองค์ ถ้าเป็นหนังหรือละครเรื่องอื่นๆ ผมเองอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจะมีสักกี่คนที่จะทำให้โจรหรือหัวขโมย คนทำผิดกฎหมายร้องไห้เสียใจต่อการจากไปได้ แต่สำหรับในหลวงพระองค์นี้ผมเองเชื่อว่าฉากนี้ได้เกิดขึ้นจริงหากคนๆ นั้นยังเป็นคนไทยและมีสายเลือดของความเป็นไทย

       แรกเริ่มเดิมทีผมเองมีความคิดว่าจะดูละครชุดนี้ให้จบรวดเดียวเลย 4 ตอนก่อนจะมาเขียนบทความนี้ให้ทุกท่านได้อ่านกันแต่ทว่าเมื่อดูไปได้เพียงแค่ 2 ตอนก็จำต้องหยุดและหันมาเขียนบทความนี้ให้จบเสียก่อนเพราะเนื่องจากว่าทุกฉากทุกตอนของละครนั้นมันมันเล่นเอาผมจุกอก พาลน้ำตาจะไหลเป็นระยะๆ ซึ่งก็แน่นอนว่าถ้าดันทุรังต่อไปต่อมน้ำตาของผมคงจะไหลจนไม่สามารถมองหน้าจอเพื่อพิมพ์บรรยายบทความในตอนนี้ออกมาได้

       ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรครับเพราะผมเองและนักแสดงกว่าร้อยชีวิตในเรื่องนี้รวมไปถึงคนดูทั่วทั้งประเทศ เราทุกคน "เกิดในรัชกาลที่ 9" ได้ผ่านและพบเจอเหตุการณ์เหล่านี้มาด้วยกัน ดังนั้นมันจึงให้ความรู้สึกที่สะท้อนใจทุกครั้งเมื่อได้ดูละครชุดนี้




ท้ายที่สุดนี้ผมเองคงจะไม่บอกให้ทุกคนต้องดูละครชุดนี้หรอกครับเพราะผมเชื่อว่าประชาชนในรัชกาลที่ 9 คงจะไม่พลาดกันอยู่แล้วที่ผมอยากจะบอกก็คืออยากให้นำเอาคำสอนและพระบรมราโชวาทของพระองค์มาปรับใช้กับตัวเรา ให้สมกับที่ว่าเรานั้น เกิดในรัชกาลที่ 9 และเป็นประชากรของพระองค์

                                                                                                                                                                                                           กาลาโต้


วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 | By: กาลาโต้

พาชมร้าน Cafe Amazon ที่ประเทศญี่ปุ่น "สวย ดูดี มีชาติตระกูล!"



สวัสดีคอกาแฟทุกท่านครับ

หากใครที่ติดตามเรื่องราวของร้านกาแฟแบรนด์ไทยที่กำลังรุกตลาดสยายปีก ขยายสาขาบุกตลาดกาแฟสดต่างประเทศอย่าง Cafe Amazon มาโดยตลอดแล้วล่ะก็คงพอที่จะทรายว่าดีว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นถือเป็นประเทศยุทธศาสตร์ประเทศหนึ่งที่ทาง Cafe Amazon จะเข้าไปเจาะตลาดและในวันนี้ Cafe Amazon ก็ได้ทำตามที่พูดให้เกิดขึ้นจริงแล้วครับด้วยการเปิดร้าน Cafe Amazon เป็นสาขาแรกที่จังหวัดฟูกุชิมะ ของประเทศญี่ปุ่นสถานที่ๆ ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะไปประมาณ 20 กิโลเมตรและถือฤกษ์เบิกชัยเปิดร้านไปเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมานี้


สำหรับร้าน Cafe Amazon สาขาฟูกุชิมะนี้ บริหารงานโดยบริษัทโคโดโม เอเนอร์จี ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างที่มีสำนักงานใหญ่ในโอซากาและได้เปิดโรงงานแห่งหนึ่งในคาวาอุชิเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยทางบริษัทโคโดโม เอเนอร์จี เองได้ทำสัญญาซื้อแฟรนไชส์กับบริษัทปตท.จำกัด (มหาชน)ของไทย ซึ่งเป็นเจ้าของแฟรนไชส์อเมซอนและได้ใช้งบประมาณหลายสิบล้านเยน เพื่อใช้ในการปรับปรุงโฉมจากบ้านโบราณแบบญี่ปุ่นให้กลายเป็นร้านกาแฟ Cafe Amazon ที่มีโต๊ะและเก้าอี้ 60 ที่ ส่วนจะสวยงาม น่านั่ง แค่ไหน เราไปดูจากคลิปที่ทางญี่ปุ่นเขานำเสนอกันดีกว่าครับซึ่งดูแล้วบอกเลยครับว่า Cafe Amazon บ้านเรา "ชิดซ้าย" ไปเลย


                                                                                                                                   กาลาโต้