วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2560 | By: กาลาโต้

ควันหลง บรรยากาศงาน Coffee Viva 2017 "ดี" แต่ยังไม่ "ที่สุด" !


คนรักกาแฟทุกท่าน

       เป็นที่ทราบกันดีนะครับว่าห้างสรรพสินค้าซีคอนแสควร์ ศรีนครินทร์เขาได้จัด Event งาน "Coffee Viva" ขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน เรื่อยมาจนกระทั่งถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2560 โดยมีการโปโมทโฆษณาออกมาในหลายๆ สื่อด้วยกันสร้างความสนใจให้กับคนรักกาแฟอย่างเราๆ ท่านๆ ได้ไม่น้อยซึ่งผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไปงานที่ว่านี้ด้วยคาดหวังที่จะพบร้านกาแฟมากมายมาออกร้านเหมือนกับงานกาแฟทั่วไปแต่ก็ต้องผิดหวังไปเล็กน้อยครับเมื่อไปถึง "เพราะไม่เป็นไปตามที่คาด"


       สิ่งที่ทำให้ผมออกอาการผิดหวังเล็กน้อยไม่ได้อยู่ที่ร้านกาแฟที่นำมาออกบูธนะครับเพราะร้านกาแฟที่นำมาออกบูธแต่ละร้านนั้นบอกเลยครับว่าเป็น professional กันแทบทั้งสิ้นแต่ผมเองนั้นไม่เข้าใจว่าในเมื่อเป็นงานกาแฟแต่เหตุไฉนเอร้านขายของอื่นๆ มาปนด้วยอาทิเช่นของแต่งบ้าน สัตว์เลี้ยง เป็นต้นซึ่งผมเองพยายามคิดเข้าข้างว่า theme ของเขาอาจจะประมาณ Coffee In The Garden อะไรประมาณนี้แต่ทว่าทำไมต้องใช้คำนำหน้าว่า "Coffee" ผมเองเชื่อว่าคอกาแฟเห็นแบบนี้คงออกอาการงง


       ก็แค่บ่นให้ฟังไม่มีอะไรมาก!! คราวนี้เรากลับมาสู่เรื่องที่จั่วหัวไว้กันต่อโดยตัดเรื่องจุกจิกที่ว่านี้ออกไปกันดีกว่าครับ!


       งาน Coffee Viva ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ต้องบอกครับว่าโดยรวมใช้ได้อยู่มีคนที่สนใจในเรื่องกาแฟไปเยี่ยมชมกันพอสมควรส่วนร้านรวงที่มาเปิดถึงแม้ว่าจะมีเพียงแค่ไม่กี่เจ้า แต่ทว่าแ่ละร้านก็ไม่ธรรมดาเลยนะครับไม่ว่าจะเป็นร้านปังหลังมอ ที่มีกระแสในโลกโซเชียลไม่น้อย, ร้าน 53 coffee ที่นำเอาแชมป์ Thailand Barista มาเป็นตัวชูโรง, ร้าน Double Shot ที่มีจุดขายอยู่ที่ที่นั่งสบายๆ พร้อมกับเสิร์ฟด้วยกาแฟแคปซูลแนวๆ Nespresso, ร้าน Anaya Coffee Society ที่มีจุดเด่นอยู่ที่กาแฟออแกนิคและกาแฟดริป ซึ่งเมื่อร้านทั้งหมดนี้มารวมตัวกันดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์มากพอที่จะทำให้จุดด้อยที่กว่ามาข้างต้นสลายหายกลายเป็นสายลมไปได้







       ผมเองหวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าถ้าหากมีการจัดงานในแนวนี้ขึ้นมาอีกครั้งในคราวหน้า ผู้จัดงานเองควรเน้นไปที่เรื่องของกาแฟให้มากกว่านี้จะเป็นการดีมากและไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนมาเดินงานหรอกครับเพราะคนไทยสมัยนี้ "บริโภคกาแฟ" กันมากกว่าบริโภคนมเสียอีกครับ

                                                                                                                       กาลาโต้
วันเสาร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 | By: กาลาโต้

จะเป็นเจ้าของร้านกาแฟได้ต้องเฉพาะคนที่ดื่มกาแฟเท่านั้นจริงหรือ??

สวัสดีคนรักกาแฟทุกท่านครับ



ต้องเรียกได้ว่าเป็นปัญหาที่เถียงกันไม่จบสิ้นเสียทีครับในวงการคนรักกาแฟซึ่งก็น่าจะพอๆ กันกับปัญหาโลกแตกที่ว่า "ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน" นั่นแหละครับพราะเนื่องจากว่ามีหลายคนยังสงสัยว่า "ถ้าหากว่าเรานั้นเป็นคนที่ไม่ดื่มกาแฟ เราเองจะสามารถเปิดร้านกาแฟหรือเป็นเจ้าของร้านกาแฟสักร้านหนึ่งได้หรือเปล่า?" ซึ่งก็แน่นอนครับว่าคำตอบที่ว่าย่อมต้องแบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย สองส่วน โดยผู้ที่เชื่อมั่นว่าคนที่ไม่ดื่มกาแฟไม่สามารถเป็นเจ้าของร้านกาแฟได้ก็มักจะพูดว่าการที่คนเราจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่งนั้นเจ้าของหรือผู้ทำต้องลงไปคลุกคลีตีโมงกับธุรกิจดังกล่าวก่อนจึงจะมีความเชี่ยวชาญและสามารถทำธุรกิจนั้นๆ ไปได้ด้วยดี ส่วนพวกที่ไม่เห็นด้วยนั้นก็ได้ให้เหตุผลว่า การที่เราเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่งนั้นเราเองไม่จำเป็นที่จะต้องทำมันเป็นทั้งหมด ขอเพียงแค่มีพนักงานที่ดี มีที่ปรึกษาที่เก่งและมีระบบการบริหารที่เยี่ยมเพียงแค่นี้ก็สามารถบริหารธุรกิจไปได้รอดแล้วพร้อมกับยกตัวอย่างร้านกาแฟหลายๆ ร้านที่ถึงแม้ว่าเจ้าของกิจการจะเป็นคนที่ไม่ดื่มกาแฟแต่ก็สามารถพาธุรกิจตัวเองไปรอดและขยายร้านใหญ่โตมีหลายสาขามาสนับสนุนเหตุผล


        สำหรับตัวผมแล้วนั้นผมเองอยากจะบอกว่าไม่ว่าเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟจะดื่มกาแฟหรือไม่นั้นมันก็ไม่มีผลต่อการเปิดร้านกาแฟหรือเป็นเจ้าของกิจการแต่อย่างใดครับเพราะเหตุผลทางฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ได้อธิบายไปแล้วแถมยังมีตัวอย่างให้เห็นแต่ถ้าหากว่าเจ้าของกิจการเป็นคนที่ชอบดื่มกาแฟมันก็ยิ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจร้านกาแฟให้กับเจ้าของมากยิ่งขึ้นเพราะจะสามารถชิมกาแฟและคัดเลือกกาแฟให้ได้รสชาติที่ถูกปากลูกค้ามากที่สุด

       แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดมากกว่าเรื่องดังกล่าวก็คือเรื่องของความชอบและรักในกาแฟรวมไปถึงรักในอาชีพงานบริการซึ่งทั้งสองสิ่งนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจร้านกาแฟของเรานั้นยั่งยืนเพราะถ้าเนื่องจากว่าอาชีพเปิดร้านขายกาแฟเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการบริการล้วนๆ ดังนั้นหากเราเองให้บริการไม่ดีลูกค้าก็จะไม่กลับมาใช้บริการอีกและถ้าหากเรานั้นไม่รักและมีความชอบในเรื่องของกาแฟแล้วล่ะก็ผมเองก็เชื่อว่าร้านที่เปิดขึ้นก็คงเปิดได้ไม่นานและคงต้องปิดตัวลงในที่สุด


       ดังนั้นเราอย่ามัวไปตั้งคำถามเลยครับว่าเจ้าของร้านกาแฟต้องดื่มกาแฟเป็นหรือไม่เป็นหากแต่ควรคิดถึงว่าเรา "รัก" ที่จะทำมันหรือไม่ซึ่งถ้าหากตอบว่า "รัก" แล้วล่ะก็อย่าช้าครับ ลงมือทำได้เลยรับรองได้ว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกล

                                                                                                                   กาลาโต้
วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2560 | By: กาลาโต้

ทางลัดในการสะสมเหรียญเพื่อแลกของพรีเมียม 7 Eleven ของคนรักกาแฟ

สวัสดีเดือนเมษายนครับคนรักกาแฟทุกท่าน



ผมเองเชื่อว่าคนรักกาแฟของผมทุกท่าน 100% ย่อมต้องเป็นลูกค้าหรือเคยใช้บริการร้านสะดวกซื้อที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทยอย่างร้าน 7 Eleven หรือที่เราเรียกันสั้นๆ ว่า "เซเว่น" อย่างแน่นอนครับไม่ว่าจะเป็นการซื้อของกิน ของใช้หรือว่าของอะไรก็ตามเพราะในปัจจุบันนี้เราเองต้องยอมรับว่าร้านค้า 7 Eleven นั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยเรียบร้อยแล้วครับซึ่งหลายคนที่ใช้บริการตอนนี้อาจจะเห็นแคมเปญโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในช่วงซัมเมอร์ของเขานั่นก็คือการสะสมเหรียญเพื่อแลกของพรีเมียมล้ำค่าซึ่งตอนนี้ก็คือของพรีเมียมจากตัวละคร "กุเดทามะ (gudetama)" หรือที่คนไทยเรียกว่า "ไข่ขี้เกียจ" นั่นเองครับ


สำหรับหลักในการสะสมเหรียญของทางเซเว่นนั้นก็ง่ายๆ ไม่มีอะไรยุ่งยากครับเพียงแค่ซื้อสินค้าของเขาครบ 40 บาทก็จะได้เหรียญสำหรับการสะสม 1 เหรียญหรือไม่ก็ซื้อสินค้าที่ร่วมรายการก็จะได้เหรียญตามที่กำหนดและเมื่อได้เหรียญครบตามที่กำหนดก็สามารถนำไปแลกของพรีเมียมได้แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่ากว่าจะได้แต่ละเหรียญนี่สิครับต้องหมดเงินไปเท่าไหร่และกว่าจะได้ของพรีเมียมแต่ละชิ้นต้องใช้เหรียญสะสมมากเท่าไหร่แค่คิดแล้วก็ "เฮ้อ!"

แต่อย่าเพิ่งถอดใจหรือทอดถอนใจไปครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งคอกาแฟ คนรักกาแฟของผมทุกท่านเพราะในวันนี้ผมมีทางลัดในการสะสมเหรียญ 7 Eleven ที่รวดเร็วมากขึ้นมาฝากกันแถมวิธีนี้ต้องบอกว่ามีแต่ได้กับได้เรียกว่าได้คูณ 3 ครับเพราะกาแฟก็แฟก็ได้ดื่ม เหรียญ 7 Eleven ก็ได้มากขึ้นแถมเงินที่จ่ายไปยังน้อยกว่าปกตินั่นก็คือการซื้อกาแฟ "All Cafe" นั่นเองครับ



วิธีการของผมก็ง่ายๆ ไม่มีอะไรยุ่งยากครับเพียงแค่เราเดินไปยังร้าน 7 Eleven ที่ขาขายเครื่องดื่ม All Cafe พร้อมกับสั่งกาแฟหรือเครื่องดื่มเย็นสักแก้วหนึ่งจะเป็น Espresso เย็น, Latte เย็น หรือแมคคิอาโต้เย็นก็ได้ครับและพอตอนจ่ายเงินเราเองก็ใช้สิทธิ์แลกซื้อเชื่อไหมครับว่าเราจะได้เครื่องดิ่มเย็นในราคาเพียงแค่ 25 บาทจากปกติ 30 บาทและยังได้เหรียญ 7 Eleven ไปสะสมมากถึง 4 เหรียญด้วยกันครับซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะว่าทาง 7 Eleven เขาดันทำโปรโมชั่นที่ซ้อนโปรโมชั่นครับคือถ้าหากซื้อเครืองดื่ม All Cafe ก็จะได้รับเหรียญ 7 Eleven จำนวน 3 เหรียญ ซึ่งก็คือ 1 โปรโมชั่นและอีกโปรโมชั่นหนึ่งก็คือใช้สิทธิ์แลกซื้อเครื่องดื่ม All Cafe ราคาของเครื่องดื่มจะลดลงจาก 30 บาทเหลือ 25 บาทและได้เหรียญ 7 Eleven จำนวน 1 เหรียญแต่ถ้าหากว่าทำตามที่ผมบอกแล้วจะกลายเป็นว่าเรานั้นได้ทั้ง 2 โปรโมชั่นในครั้งเดียวเท่ากับได้เหรียญ 7 Eleven รวมทั้งสิ้น 4 เหรียญในคราวเดียวกันซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความผิดพลาดหรือความตั้งใจแต่ถึงอย่างไรก็อย่าเอ็ดไปครับรีบไปจัดการซื้อกันโดยไวเพราะโปรโมชั่นที่ว่านี้จะหมดเขตในวันที่ 25 เมษายน 2560 นี้เท่านั้นและเพื่อเป็นการยืนยันว่ามันเป็นอย่างที่ผมพูดจริงผมจึงได้นำเอาภาพใบเสร็จที่ผมซื้อมาลงให้ทุกท่านได้รับชมกัน

                                                                                                                                      กาลาโต้
วันพุธที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2560 | By: กาลาโต้

ชัวร์หรือมั่วนิ่ม? ดื่มกาแฟมากๆ ทำให้เกิดเป็นโรคมะเร็ง!!!



สวัสดีคนรักกาแฟทุกท่านครับ

หากใครก็ตามที่ติดตามข่าวเรื่องของประโยชน์และโทษของกาแฟมาโดยตลอดน่าจะพอทราบดีว่าตอนนี้มีข่าวๆ หนึ่งที่ค่อนข้างมีการพูดกันหนาหูในวงกว้างว่า "การรับประทานกาแฟมากๆ นั้นจะทำให้เกิดเป็นโรคมะเร็งเพราะเนื่องมาจากว่ากาแฟนั้นมีสารที่ทให้เกิดมะเร็งอยู่" ซึ่งเจ้าข่าวที่ว่านี้ไม่เพียงแต่แค่มีการเผยแพร่บนโลกออนไลน์เท่านั้นนะครับหากแต่รายการโทรทัน์และหนังสือพิมพ์บางเล่มยังนำเอาเรื่องดังกล่าวไปพูดขยายความกันจนทำให้ "คอกาแฟ" ทั้งหลายที่ดื่มกาแฟกันเป็นประจำต่างวิตกกังวลกับเรื่องดังกล่าวจนทำให้บรรยากาศและความสุนทรีย์ในการกินกาแฟลดลงอย่างเห็นได้ชัด



สำหรับข่าวที่ว่านี้ผมเองก็เคยได้อ่านและเกิดความสงสัยเช่นกันครับเพราะจากที่เคยเรียนรู้เรื่องประโยชน์และโทษของกาแฟผมเองก็ยังไม่เคยได้ยินหรือ่านเจอมาก่อน จะมีก็แต่เพียงแค่ว่ากาแฟนั้นมีส่วนช่วยในการต่อต้านมะเร็งเต้านม ดังนั้นผมเองจึงลองค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ที่เป็นสากลดูและทำให้ได้รับคำตอบว่าข่าวดังกล่าวนั้นเกิดจากความเข้าใจที่ผิดครับโดยผู้ที่ออกมาพูดถึงเรื่องที่ว่านี้ก็ไม่ใช่องค์กรหรือหน่วยงานที่ไม่มีความน่าเชื่อถือแต่เป็นองค์กรระดับโลกอย่าง World Health Organization (WHO) หรือองค์การอนามัยโลกนั่นเองครับ



World Health Organization (WHO) หรือองค์การอนามัยโลกได้ออกเอกสารทางการเผยถึงผลการศึกษาล่าสุดที่ชี้ว่าการดื่มกาแฟติดต่อกันนั้นไม่ได้เป็นผลที่ทำให้ผู้ดื่มเป็นมะเร็งหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบหลอดเลือดตามที่เคยมีการพูดถึงกันก่อนหน้านี้เพราะความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลอดอาหารที่เกิดจากกาแฟนั้นมันมีสาเหตุมาจากการดื่มเครื่องดื่มที่ร้อนจัดเกินไปต่างหาก หาได้เกิดจากสารในกาแฟแต่อย่างใดไม่ โดยนักวิจัยเองได้ทำการศึกษาพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มในประเทศต่างๆ และพบว่าประเทศที่มีการดื่มชา หรือกาแฟที่ร้อนจัด หรือในน้ำที่ชงด้วยอุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส (สำหรับกาแฟอุณหภูมิน้ำจะอยู่ที่ 94 องศาเซลเซียส) มีความเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งหลอดอาหารมากกว่าการชงกาแฟที่อุณหภูมิต่ำกว่า เนื่องจากว่าอุณหภูมิน้ำที่ร้อนจัดสามารถทำให้เยื่อบุต่างๆ อักเสบ และกระตุ้นให้เกิดมะเร็งได้ โดยกลุ่มประเทศที่พบว่านิยมการดื่มเครื่องดื่มในอุณหภูมิร้อนจัดได้แก่ประเทศจีน อเมริกาใต้ และตะวันออกกลาง



อย่างไรก็ตามผลการศึกษานี้ไม่ได้เป็นการยืนยันว่าการดื่มเครื่องดื่ม หรือรับประทานอาหารที่ร้อนจัดเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งหลอดอาหารเพราะเนื่องมาจากว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน อย่างการสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลเป็นประจำ ยังคงเป็นสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งระบบทางเดินอาหารเช่นเดิม

นี่แหละครับข้อเท็จจริงของเรื่องทั้งหมดที่ว่ามานี้ ได้ยินแบบนี้เชื่อว่า "คอกาแฟ" ทั้งหลายคงจะสบายใจกันเสียทีนะครับและสำหรับเรื่องนี้ผมเองเชื่อว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นกับคนไทยโดยเฉพาะคอกาแฟวัยรุ่นในบ้านเราสักเท่าไหร่เพราะเนื่องจากว่าบ้านเรานั้นเป็น "เมืองร้อน" เป็นทุนเดิมอยู่แล้วดังนั้นกาแฟที่ขายดีที่สุดก็คือ "กาแฟเย็น" นั่นเอง

                                                                                                                            กาลาโต้
วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2560 | By: กาลาโต้

กาแฟเงือกเขียวกำไรต่อแก้วน้อยกว่ากาแฟรถเข็นจริงหรือ??



สวัสดีคนรักกาแฟทุกท่านครับ

สำหรับรื่องที่ผมจะพูดถึงในวันนี้นั้นสืบเนื่องมาจากการท่องเน็ตตามประสาคนชอบอ่านไปเรื่อยๆ ของผมจนทำให้วันหนึ่งมีโอกาสได้พบกับบทความๆ หนึ่งที่เขาเปรียบเทียบกันระหว่างกาแฟเงือกเขียวอย่าง Starbucks กับกาแฟรถเข็นในทำนองที่ว่าถึงแม้ว่ากาแฟ Starbucks จะขายราคาแพงก็ตามทีแต่ถ้าหากว่าลองเอามันมาเปรียบเทียบต้นทุนกับกาแฟรถเข็นแล้วเราจะรู้ว่ากำไรต่อแก้วของกาแฟ Starbucks นั้นจะน้อยกว่ากาแฟรถเข็นธรรมดาๆ พร้อมทั้งอธิบายเอาไว้อย่างชัดแจ้งเบ็ดเสร็จเลยครับว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นตามประสานักวิเคราะห์ที่น่าจะจบทางด้านการตลาดมาซึ่งผมเองนั้นเมื่อได้อ่านก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจดังนั้นจึงได้ตัดสินใจที่จะนำเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ทุกท่านได้ฟังกันครับ

ในบทความดังกล่าวนี้เขาพูดถึงเรื่องของอัตรากำไรสุทธิต่อแก้วของ Starbucks ที่ตกอยู่ราวๆ 13% ซึ่งถ้าหากเทียบกับกาแฟรถเข็นที่หลังจากหักต้นทุนต่างๆ ที่จำเป็นออกไปแล้วกาแฟรถเข็นมีกำไรต่อแก้วมากถึง 67% เลยทีเดียวเชียวล่ะครับซึ่งฟังดูแล้วมันไม่น่าจะเป็นไปได้ใช่ไหครับซึ่งแรกเริ่มเดิมทีผมเองก็คิดเช่นนี้แต่เมื่อได้อ่านต่อไปจนจบเลยทำให้รู้ว่ามัน "เป็นจริง" ดังที่เขากล่าวอ้างครับเพราะค่าใช้จ่ายที่ทำให้อัตรากำไรต่อแก้วของ Starbucks นั้นน้อยกว่าที่ควรจะได้ก็คือ "ต้นทุนค่าเช่าร้าน" นั่นเองเพราะเนื่องจากว่าร้านกาแฟ Starbucks นั้นเป็ฌนร้านกาแฟที่เปิดโดยการเช่าพื้นที่ซึ่งโดยมากจะอยุ่ในห้างสรรพสินค้าดังนั้นอัตราค่าเช่าพื้นที่ของมันจึงค่อนข้างสูงทำให้กำไรที่ควรจะได้หมดไปกับเรื่องนี้เสียป็นส่วนใหญ่ในขณะที่กาแฟรถเข็นนั้น cost หรือต้นทุนเรื่องค่าเช่าที่เป็น 0 หรือแทบจะไม่มีดังนั้นมันจึงทำให้กำไรของกาแฟรถเข็นต่อแก้วมีมากกว่ากาแฟ Starbucks ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องครับ



แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ากำไรต่อแก้วของกาแฟ Starbucks จะน้อยกว่ากาแฟรถเข็นแต่เมื่อรวมยอดขายทั้งวันหรือยอดขายขายตลอดการขายทั้งเดือนแล้วเราเองจะรู้เลยครับว่ากำไรรวมของกาแฟ Starbucks นั้นมีสูงหรือมากกว่ากาแฟรถเข็นกว่ามากจนแทบจะเทียบกันไม่ได้ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า Starbucks ได้การขายที่เป็นปริมาณนั่นเองครับเพราะคนส่วนใหญ่ถ้าต้องเลือกดื่มกาแฟดีๆ สักแก้วหนึ่งเขาก็คงเลือกที่จะดื่มกาแฟ Starbucks มากกว่ากาแฟรถเข็นเพราะอย่างน้อยรถชาติของกาแฟ Starbucks นั้นมีมาตรฐาน ใช้เมล้ดกาแฟที่ได้คุณภาพและที่สำคัญที่สุดคือ "ชงทุกครั้งก็ได้รสชาติเหมือนเดิมทุกครั้ง" แถม Brand Starbucks เองนั้นก็เป็น Brand กาแฟชื่อดังมีที่มีสาขาและมีคนรู้จักทั่วโลกดังนั้นถึงแม้ว่าอัตรากำไรเฉลี่ยต่อแก้วจะน้อยแค่เมื่อรวมๆ แล้วมันกลับกลายเป็นกำไรที่มากมายมหาศาลเข้าทำนอง "ทรายเม็ดเล็กๆ ที่สะสมจนกลายเป็นกองทรายกองใหญ่ๆ นั่นแหละครับ

สำหรับข้อคิดในบทความตอนนี้คงไม่มีอะไรมากครับเป็นเพียงแค่การเล่าสู่กันฟังส่วนใครที่อยากจะอ่านบทความที่ผมว่านี้แบบเต็มๆ ก็สามารถคลิกเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้า สวัสดีครับ


                                                                                                                      กาลาโต้

Source : finnomena.com
วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560 | By: กาลาโต้

สวยและดีน่ามีไว้! แก้วคนไทยรักในหลวง รัชกาลที่ 9

สวัสดีปีใหม่คนรักกาแฟทุกท่านครับ



สำหรับเรื่องราวที่ผมจะนำเสนอในวันนี้นั้นน่าจะเป็นที่ถูกอก ถูกใจบรรดาผู้ที่ชื่นชอบในการเก็บสะสมแก้วกาแฟกันอย่างแน่นอนครับเพราะเนื่องจากว่าในปัจจุบันนี้บรรดาร้านกาแฟสดต่างๆ ไม่ค่อยที่จะเปลี่ยนลายแก้วกาแฟกันสักเท่าไหร่เท่าที่ห้นอยู่ก็มีเพียงแค่ไม่กี่เจ้าแต่ก็จะเปลี่ยนเฉพาะในเทศกาลสำคัญๆ อาทิเช่นเทศกาลปีใหม่ เทศกาลคริสต์มาสเท่านั้น ส่วนวันหยุดหรือเทศกาลสำคัญๆ อื่น ก็มักที่จะใช้แก้วปกติหรือไม่ก็ใช้แก้วที่เหลือยู่ให้หมดไปซึ่งก็เป็นเรื่องของต้นทุนหรือการตลาดแต่ละที่ครับ



แต่สำหรับแก้วกาแฟที่ผมเลือกนำมาเสนอนี้นั้นบอกเลยครับว่าเราเองในฐานะ "คอกาแฟ" และในฐานะ "คนไทย" ควรที่จะมีเก็บสะสมเอาไว้เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นร้านกาแฟร้านเดียวและก็น่าจเป็นเพียงแค่ครั้งเดียวที่มีการผลิตออกมาเพื่อให้เราได้เก็บเอาไว้ชั่วลูกชั่งหลานนั่นก็คือแก้ว "ธ สถิตย์ในดวงใจไทยนิรันดร์" ครับ

แก้ว "ธ สถิตย์ในดวงใจไทยนิรันดร์" นั้นเป็นผลงานของร้านกาแฟสดชื่อดังอย่างแม่อูคอที่แรกเริ่มเดิมที ปกตินั้นแก้วที่เขาใวส่กาแฟก็จะเป็นแก้วพลาสติกทรงสูงธรรมดาๆ เหมือนกับแก้วกาแฟสดทั่วๆ ไปแต่ถ้าหากไปซื้อกาแฟของเขาในตอนนี้ก็จะได้แก้วที่มีลักษณะสีดำขลับตัดด้วยตัวหนังสือและลวดลายสีทองซึ่งนั่นแหละครับแก้ว "ธ สถิตย์ในดวงใจไทยนิรันดร์"



ผมเองเชื่อมั่นเป็นอย่างมากครับว่าการที่แม่อูคอเขาออกแก้วแบบนี้มานั้นไม่ได้เพื่อเหตุผลทางการตลาดหรือเพื่อจะหากำรี้กำไรจากเหตุการณ์สำคัญอย่างแน่นอนเพราะลำพังลักษณะแก้ว การสกรีนลวดลายนั้นมันทำให้ต้นทุนแก้วสูงเพิ่มมากกว่าปกติโดยเฉพาะฝาสีทองด้านบนที่ดีไซน์เป็นแบบยกขึ้นอีนนั้นแพงกว่าฝาปิดแบบธรรมดาๆ เสียอีกครับแต่ที่เขาทำมานั้นเชื่อว่าน่าจะเป็นวิธีที่แสดงถึงความจงรักภักดีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกแบบหนึ่งและนี่แหละครับเป็นสิ่งที่ทำให้แก้วใบนี้ "มีค่า" และ "น่าสะสม"



 สำหรับใครที่อยากได้แก้วใบนี้เอาไว้สะสมหรือเอาไว้เพื่อรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเราก็สามารถไปหาได้ที่ร้านกาแฟแม่อูคอทุกสาขานะครับและไม่ต้องกังวลนะครับว่าสนนราคาของมันจะแพงมากมายหรือบวกเพิ่มเพราะราคาของมันนั้นก็คือราคากาแฟแก้วหนึ่งที่เราเคยซื้อตามปกตินั่นเองครับคิดเสียว่าเป็นการคืนกำไรของร้านเขาก็แล้วกันครับ

                                                                                                                                 กาลาโต้
วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560 | By: กาลาโต้

“สวย” ด้วย กากกาแฟ

“สวย” ด้วย กากกาแฟ

หลายท่านคงรู้มาบ้างแล้วกาแฟนั้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพไม่น้อยเลยทีเดียว หากดื่มในปริมาณที่เหมาะสมต่อวันอาทิเช่น ละลายไขมันในร่างกายโดยกาแฟนั้นจะเข้าไปกระตุ้นไขมันให้เกิดการแตกตัวทำให้เกิดพลังงาน ช่วยลดคอลเลสเตอลอลในเลือดกระตุ้นการไหลเวียน ซะลอความเสื่อมของร่างกาย นอกจากนั้น คาเฟอีนในกาแฟยังช่วยสร้างน้ำย่อยที่กระเพาะอาหารและตับอ่อน  แต่วันนี้อ้อยใจ จะมาแนะถึงคุณประโยชน์ของกากกาแฟ  ให้เพื่อนๆ ไม่เพียงสุขภาพดีแต่สวยด้วย

เวลาที่ชงกาแฟแล้ว กากที่เหลือๆ อย่าเพิ่งทิ้งนะคะ อ้อยใจมีสูตรมาร์คและขัดผิวด้วยกากกาแฟมาให้สาวๆ ได้ลองทำตามดู

สูตรสำหรับสาวผิวแห้งด้วย กากกาแฟ+น้ำผึ้ง
ช่วยให้ผิวเนียนและชุ่มชื่น นุ่มละมุน ทำซักสองวันต่อหนึ่งครั้ง ผสมให้มีความเข้มข้นตามต้องการ การนั้นนำมาพอกที่ผิวไว้ซัก 15 นาที แล้วก็เริ่มขัดเบาได้ทั้งใบหน้า ลำคอ แขนขา ได้หมดค่ะ รับรองว่าเลิศ

ขาววิ๊งๆ ลดจุดด่างดำ ด้วยมะขามเปียก+ขมิ้น+กากกาแฟ
สูตรนี้เป็นสครับไวเนนนิ่งดีๆนี่เอง  วิธีทำง่าย ละลายมะขามเปียกด้วยน้ำ แยกเมล็ดออกมา ใส่ชมิ้น และกากกาแฟ สูตรนี้ ใครเป็นสิวที่หลัง ใช้ได้ดีทีเดียว รับรองสิวยุบรอยแดงจางลง ทำแบบนี้สัปดาห์ละสองครั้ง เพียงสิบครั้ง เห็นผลแน่นอน

หน้าขาวใสเด้ง ด้วย โยเกิร์ต+น้ำผึ้ง+ขมิ้น+กากกาแฟ
ใครที่หน้าหมองคล้ำ ไม่ขาวใสซะที ต้องรองสูตรนี้ ผสมส่วนผสมให้เข้ากัน โยเกิร์ต น้ำผึ้ง ขมิ้น และกากกาแฟ  แต่สูตรนี้ หากใช้กับผิวหน้าอย่างใส่ขมิ้นมากจนเกินไป เพราะเดี๋ยวจะหน้าเหลืองไปตามๆ กัน  เมื่อผสมส่วนผสมเข้าด้วยกันแล้ว ให้นำมาพอกหน้าและขัดเบาๆรับรองหน้าขาวใสเด้ง  เหมือนใช้ครีมหน้าเด้งขาวใส.comแน่นอน

กากแกแฟเพียวๆ ก็ดีนะ
สำหรับบางคนผิวมัน การใช้กากกาแฟสครับก็ดีไม่น้อย เพียงหลังล้างหน้า ให้นำกากกาแฟผสมน้ำเล็กน้อยและขัดหน้าเบาๆ ส่วนใครชอบสครับตัวก็หลังจากฟอกสบูล้างออก แล้วก็ขโลมกากกาแฟให้ทั่วตัว ทิ้งไว้ซัก 5 นาที แล้วก็ขัดๆถูๆ  ผลลัพธ์ที่ได้เป็นที่พึงพอใจอย่างแน่นอน อ้อยใจรับประกัน

ว่าแล้ว สาวๆ ทั้งที่ดื่มและได้ดื่มกาแฟ หรือแม้แต่หนุ่มๆ ท่านไหน ที่อยากมีผิวสวยๆ ก็ทำตามได้ค่ะ  อาจลองประยุกต์ สูตรใหม่ขึ้นมาเองก็ได้ เห็นผลยังไง ก็บอกต่อ หรือเล่าสู่กันฟังได้นะคะ