วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2561 | By: กาลาโต้

น่าจับตา!! เมื่อยักษ์ใหญ่วงการน้ำดำหันมาลงทุนในธุรกิจกาแฟสด!!



คนรักกาแฟทุกท่านครับ

สำหรับข่าวเด่นดังในแวดวงกาแฟระดับโลกเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพาดต่อมาจนกระทั่งถึงสัปดาห์นี้ผมเองเชื่อว่าคงไม่มีข่าวไหนที่ดังและเป็นที่พูดถึงมากไปกว่าข่าวที่บริษัทน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างบริษัท Coca Cola ประเทศสหรัฐอเมริกาปิดดีลซื้อกิจการร้านกาแฟสดอันดับต้นๆ ของโลกอย่าง "Costa Coffee" ที่มีสาขาราวๆ 3000 สาขาไปด้วยมูลค่าที่สูงถึง 5,100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกาซึ่งถ้าเทียบเป็นเงินไทยแบบกลมๆ ก็ราวๆ 163,000,000 บาท (หนึ่งแสนหกหมื่นสามพันล้านบาท) ซึ่งข่าวดังกล่าวที่ว่านี้เชื่อว่าน่าจะทำให้คอกาแฟและคอน้ำอัดลมรวมไปถึงผู้ที่สนอกสนใจหรือได้ยินข่าวนี้จำนวนไม่น้อยเลยต่างสงสัยกันว่าทำไมหรือเหตุใดบริษัท Coca Cola จึงต้องทุมเงินมหาศาลเพื่อซื้อกิจการที่ตนเองไม่ถนัดด้วยดังนั้นในวันนี้เราจะมาวิเคราะห์และพูดคุยถึงเรื่องนี้กันครับ


การที่ Coca Cola เข้า Take Over และซื้อกิจการร้านกาแฟสด Costa Coffee ในครั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ต่างมองกันว่า Coca Cola ต้องการที่จะใช้ร้านกาแฟ Costa Coffee ไปสู้รบปรบมือกับร้านกาแฟอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Starbucks ที่ตอนนี้กำลังขยายสาขาอย่างต่อเนื่องและถึงแม้ว่านโยบายล่าสุดของทาง Starbucks เองจะบอกว่าจะมีการลดสาขาลงไปกว่า 300 สาขาก็ตามทีแต่ถึงกระนั้นก็ยังถือว่ามีสาขาเยอะอยู่ซึ่งเรื่องนี้ผมเองก็มองว่าเป็นไปได้แต่ไม่น่าจะใช่เสียทีเดียว เพราะอะไรน่ะเหรอครับ

"ก็เพราะว่า Coca Cola นั้นเป็นบริษัทที่ผลิตน้ำอัดลมและไม่ได้อยู่ในวงการกาแฟมาตั้งแต่แรกแล้วน่ะสิครับดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องซื้อร้านกาแฟ Costa Coffee มาต่อสู้กับร้าน Starbucks จริงไหมครับ!"

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าฉุกคิดก็คือบางทีการที่ Coca Cola เลือกที่จะซื้อร้านกาแฟ Costa Coffee มาเป็นของตนเองนั้นบางทีมันก็อาจจะเป็นการขยายไลน์ธุรกิจและเป็นการต่อยอดการลงทุนใหม่ๆ ของทาง Coca Cola เองก็เป็นได้ครับ



สาเหตุที่ผมมองเช่นนี้ก็เพราะเนื่องมาจากว่า 1-2 ปีก่อนหน้านี้ประชากรโลกเริ่มหันมาสนใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้นทำให้ตลาดน้ำอัดลมต้องปรับแผนการตลาดกันยกใหญ่ดังจะเห็นได้จากการออกเครื่องดื่มน้ำอัดลมประเภทที่ไม่มีน้ำตาลออกมากันอย่างมากมายแทบจะทุกเจ้า แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้วงการน้ำอัดลมกระเตื้องขึ้นสักเท่าไหร่นักกลับกันในขณะที่ตลาดกาแฟสดของโลกเองถึงแม้ว่าจะไม่หวือหวาสักเท่าไหร่แต่ทว่ามันเองกลับเคลื่อนที่ เติบโต ก้าวหน้าไปได้เรื่อยๆ ดังนั้นการที่ Coca Cola คิดจะลงทุนในธุรกิจกาฟจึงยังคงมีโอกาสในการเติบโตและประสบความสำเร็จได้อีกมากพอสมควรมิหนำซ้ำการที่ Coca Cola เองเลือกที่จะซื้อร้านกาแฟที่มีสาขาอยู่มากมาไว้ในกำมือก็จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจกาแฟสดของ Coca Cola ดำเนินการได้ง่ายขึ้นไม่ต้องไปนับหนึ่งใหม่


นอกจากการขยายไลน์ธุรกิจไปยังธุรกิจกาแฟสดแล้วผมเองยังมองอีกครับว่าบางที Coca Cola เองอาจจะใช้ช่องทางธุรกิจกาแฟสดนี้เป็นตัวโฆษณาแบรนด์และสินค้าของทาง Coca Cola ได้อีกด้วยอาทิเช่นน้ำอัดลมของ Coca Cola จะวางขายในร้านกาแฟ Costa Coffee กว่า 3,000 สาขา ทำให้ลูกค้ามีโอกาสเข้าถึงสินค้าน้ำอัดลมหรือสินค้าอื่นๆ ของทาง Coca Cola มากขึ้นซึ่งถ้าหากมองในแง่ของการสร้าง Brand Awareness ให้กับ Coca Cola แล้วผมเองเชื่อว่าการจ่ายเงินไป แสนกว่าล้านบาทนั้น มันช่างเป็นค่าการตลาดที่คุ้มค่ายิ่งนักครับ

หรือว่าไม่จริง!!

                                                                                                                   กาลาโต้
วันพุธที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 | By: กาลาโต้

การโฆษณาร้านกาเเฟให้ลูกค้ารู้จักควรทำอย่างไร

เวลานี้ตลาดกาเเฟในบ้านเรามีการเเข่งขันกันสูงอย่างมาก มีร้านกาเเฟเปิดเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือเเหล่งท่องเที่ยวในที่ต่างๆก็จะมีร้านกาเเฟคอยให้บริการผู้คนที่ผ่านไปมา

เเละการที่มีร้านกาเเฟเป็นจำนวนมากเเล้วเเต่เราต้องการที่จะเปิดร้านกาเเฟ สักร้าน ควรที่จะทำอย่างไรให้ลูกค้ามาสนใจในร้านของเรา เจ้าของร้านควรทำอย่างไรให้คนมาเข้าร้านเเละทำให้ร้านมีกำไร

อย่างเเรกคือสไลต์ร้านของตัวเอง ร้านกาเเฟส่วนมากย่อมมีสไตล์ร้านเป็นของตัวเอง บางร้านใช้ไม้ทำร้านให้ดูมีความเป็นตัวของตัวเอง บางร้านทำเป็น ปูนเปลือย หรือที่เรียกว่าลอฟท์ ibet789 ก็เเล้วเเต่เจ้าของร้านคิดว่าทำสไลต์ไหนจะเป็นที่ต้องตาลูกค้าให้มาเข้าร้านซึ่งการมีสไตล์ของตัวเองจะเป็นเเม่เหล็กดึงดูดลูกค้าได้ดีทีเดียว


การโฆษณาร้านกาเเฟของตัวเอง  ในทุกวันนี้การโฆษณาสินค้าในเเต่ละอย่างสามารถทำได้ง่านมา เรามี เฟสบุ๊ค,ไลน์แอด,อินสตาแกรม ที่มาให้บรรดาพ่อค้าเเม่ค้า ลงโฆษณาสินค้าของตัวเอง เราก็ทำคอนเทนต์ ร้านกาเเฟของเราให้ดีดีเพื่อการโปรโมทในช่วงทางการโฆษณาในออนไลน์เหล่านี้ จะได้ทำให้ลูกค้าเห็นร้านได้เป็นสินค้า นั้นก็คือกาเเฟที่เราขายว่าน่าดื่มอย่างไร

ต่อมาคือโปรโมชั่น ร้านกาแฟควรที่จะมีโปรโมชั่นห้กับลูกค้าเพื่อที่จะทำให้ลูกค้าเขามาร้านของท่านอีกไม่ว่าจะเป็นการลดเเลกเเจกเเถมการเล่นเกมส์ เพื่อที่จะสร้างสีสันให้กับร้านของท่านเเละลูกค้าของท่าน ถือเป็นการทำให้ลูกค้าติดใจเเละจะได้เเวะเวียนเข้ามาร้านกาเเฟของท่านอีก เป็นที่ถูกใจอาจจะมีการบอกกันต่อๆไปปากต่อปากทำให้ร้านกาเเฟของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น

สุดท้ายเเล้วร้านกาเเฟที่อยู่ได้นานก็ขึ้นอยู่กับรสชาติเป็นสำคัญเเละการบริการที่ดีมีรอยยิ้มให้กับลูกค้าทุกคนที่มาเข้าร้านของเรา เเละเชื่อว่าหากเรามีความตั้งใจเเล้วทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ด้วยดีเเละร้านกาเเฟของคุณก็จะมีลูกค้าเข้ามาเพียบอย่างเเน่นอน

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2561 | By: กาลาโต้

Black Jack Scrub Soap สบู่สครับกาแฟดีๆ ที่ "คนรักกาแฟ" ต้องลอง!!

คนรักกาแฟทุกท่านครับ



ถ้าหากจะพูดถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องหรือทำมาจากกาแฟแล้วล่ะก็เชื่อว่าผลิตภัณฑ์ประเภทกาแฟสครับผิวหรือขัดผิวน่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการผลิตออกมามากที่สุดผลิตภัณฑ์หนึ่งซึ่งมีทั้งเป็นแบบผงให้นำไปผสมกับน้ำผึ้งหรือโยเกิร์ตแล้วนำมาขัดและแบบเป็นสบู่ครับผิวเพื่อความสะดวกในการขัดผิวกายแต่ทุกท่านเชื่อไหมครับว่าสครับเหล่านี้นั้นส่วนใหญ่เท่าที่เห็นมา "ไม่ค่อยเวิร์ค" สักเท่าไหร่



ผมเองเป็นคนหนึ่งครับที่ใช้เจ้าผลิตภัณฑฺ์สครับผิวจากกาแฟมาค่อนข้างมากเพราะต้องการที่จะรู้ว่าสรรพคุณของมันนั้นดีตามที่ได้กล่าวอ้างกันหรือไม่แต่ก็ปรากฎความ fail ในอารมณ์แทบจะทุกแบรนด์ครับเพราะปัญหาที่พบเป็นส่วนมากในการใช้ของเหล่านี้ก็คือเวลานำมันมาขัดตัวแล้วมักจะมีไขมันหรือน้ำมันออกมาจากสครับเป็นจำนวนมากแทนที่จะทำให้ผิวเนียนแห้งกระชับกลับกายเป็นมันลื่นเกินความจำเป็นมิหนำซ้ำหลายครั้งด้วยกันที่ผมพบว่าเมื่อเปิดซองสครับออกมาแล้วพบกับเชื่อราเป็นของแถม นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผมไม่ค่อยตื่นเต้นกับเจ้าสครับเหล่านี้สักเท่าไหร่เมื่อมีใครมาบอกว่าตัวนั้นดี ตัวนี้ดี



แต่แล้วเมื่อเร็วๆ นี้ผมเองได้มีโอกาสได้ทดลองใช้สบู่สครับกาแฟตัวหนึ่งที่มีทั้งความแปลกในเรื่องของดีไซน์แถมยังมีกลิ่นที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครและที่สำคัญที่สุดคือมันใช้ได้ผลดี ไม่มีข้อกังขา เมื่อเป็นเช่นนี้ผมจึงไม่ลังเลใจที่จะนำมันมาเล่าให้ทุกท่านได้อ่านกันในบทความตอนนี้ซึ่งเจ้าสบู่สครับที่ว่านี้ก็คือ "Black Jack Scrub Soap" นั่นเองครับ



เมื่อพูดถึง Black Jack แล้วเชื่อว่าทุกคนย่อมต้องรู้ว่ามันคือไพ่ชนิดหนึ่งแต่ทว่า ณ ตอนนี้ใครจะไปคาดคิดล่ะครับว่าเขานั้นมีการนำมันมาดีไซน์ให้เป็นสบู่สครับกาแฟซึ่งแค่เพียงมองจากรูปลักษณ์ภายนอกโดยเผินๆ ก็ให้ความรู้สึกราวกับว่ามันคือไพ่สำรับหนึ่ง นี่แหละครับดีไซน์แรกที่เตะตาใครหลายต่อหลายคน



ทีนี้เมื่อเราแกะออกมาและมาดูใกล้ๆ ถึงตัวสบู่ที่อยู่ข้างในก็ต้องบอกว่า Amazing กว่าที่เราได้เห็นข้างนอกอีกครับเพราะตัวสบู่นั้นแกะเป็นรุปที่เหมือนกับไพ่อย่างไม่มีผิดเพี้ยน มิหนำซ้ำยังไม่ได้เ็นรูปไพ่แค่ใบเดียวแต่ยังเป็นไพ่ตัวหลักถึง 3 ใบ 3 แบบคือ ตัว jack ตัว Queen หรือที่เราเรียกกัว่าแหม่มและตัว King ครับ



ถัดมาเรามาดูเนื้อสบู่กันบ้างดีกว่าครับ สำหรับเนื้อสบู่นั้นเนื่องจากว่าเป็นสบู่สครับกาแฟดังนั้นสีของมันจึงออกมาในรูปแบบสีน้ำตาลๆ ซึ่งก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากการใช้กากกาแฟมาเป็นส่วนผสมหลักนั่นเองครับมิหนำซ้ำกากาแฟที่เขาใช้ในการผลิตนั้นก็ไม่ใช่กากกาแฟแบบกากๆ คือแบบที่เขาใช้กันแล้วจนเหลือแต่กากนะครับหากแต่ลงทุนทำกากาแฟจากเมล็ดกาแฟสดๆ ซึ่งการใช้กากกาแฟแบบนี้แน่นอนครับว่าต้นทุนในการผลิตย่อมต้องสูงขึ้นมากกว่าผลิตภัณฑ์สครับกาแฟทั่วไปแต่นั่นก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้โดยตรงครับเพราะมันสามารถตัดปัญหาเรื่องเชื้อราที่มากับกากกาแฟไปได้ 100%



ส่วนสรรพคุณของสบู่สครับตัวนี้ผมเองบอกเลยครับว่ามีสรรพคุณครบสูตรเทียบเท่าที่สบู่กาแฟดีๆ ได้มาตรฐานพึงมีไม่ว่าจะเป็นการลดเซลล์ลูไลท์ ทำให้ผิวหนังเรียบเนียน สัดส่วนกระชัับขึ้น, ช่วยลดสิว ลดความมัน ลดการอักเสบของผิวหนัง, ช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของโลหิต, ช่วยผลัดเซลล์เก่าอย่างอ่อนโยน



แต่ที่พีคที่สุดคือ "กลิ่น"!!



เมื่อพูดถึงสครับกาแฟหรือสบู่กาแฟแล้วเชื่อว่าร้อยทั้งร้อยย่อมต้องบอกว่ากลิ่นของมันต้องคือกลิ่นกาแฟแต่ทุกท่านเชื่อไหมครับว่าเจ้าสบู่ "Black Jack Scrub Soap" เป็นอะไรที่เมื่อดมแล้วจะไมไ่ด้กลิ่นกาแฟแต่อย่างใดแต่กลับได้กลิ่นอโรมาของตะไคร้หอมที่มีฤทธิ์ในการช่วยในการผ่อนคลายความเครียดโดยกลิ่นของมันนั้นเทียบเท่ากับกลิ่นที่ใช้ในสปาดีๆ เลยล่ะครับ ดังนั้นการใช้สบู่ตัวนี้ในการขัดผิวหรืออาบน้ำก็จะช่วยให้เราได้ทั้งผิวที่สวยและผ่อนคลายความตึงเครียดไปในคราวเดียวกัน



สำหรับสบู่ "Black Jack Scrub Soap" นี้ ณ เวลานี้อาจจะยังไม่ได้มีขายมากมายหลายแห่งทั่วไปด้วยว่าเป็นสบู่ที่ทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการส่งออกขายยังต่างประเทศเป็นหลักฉะนั้นอาจจะหาซื้อค่อนข้างยากสักหน่อยแต่ถ้าหากใครอยากลองซื้อไปใช้ก็สามารถติดต่อที่ทางเพจเราได้ครับเพราะทางผมเองได้ซื้อมาใช่้เองจำนวนหนึ่งโดยจะแบ่งขายให้กับทุกท่านที่สนใจในราคาทุนคือก้อนละ 150 บาท (ไม่รวมค่าจัดส่ง) ซึ่งผมเองอยากให้ "คนรักกาแฟ" ทุกท่านได้ทดลองใช้กันดูครับเพื่อผิวอันเป็นที่รักของเรา ราคา 150 บาทเพื่อแลกกับผิวพรรณที่ผ่องใสอ่อนเยาว์ถือว่าไม่แพงเลยครับ กาแฟที่เรากินวันหนึ่งๆ ราคารวมยังมากกว่านี้อีก

ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับ "Black Jack Scrub Soap" ทุกท่านครับ

                                                                                                                        กาลาโต้

ปล.ติดต่อซื้อสบู่
Line : manndiigroup
Facebook : https://www.facebook.com/kafeme/?ref=br_rs
Hotline : 062-2854289
วันจันทร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2561 | By: กาลาโต้

แรกพบประสบพักตร์ : กาแฟ Owl Coffee

คนรักาแฟทุกท่านครับ

ต้องยอมรับกันตามตรงครับว่าผมนั้นเหินห่างจากกาแฟสำเร็จรูปประเภท Freeze Dried หรือกาแฟประเภท 3 in 1 หรือ Instant Coffee แค่ฉีกซอง เติมน้ำร้อน เอาช้อนคนก็สามารถดื่มกิน รับประทานได้มานานหลายปีแล้วด้วยเหตุผลที่เราๆ ท่านๆ ต่างก็รู้กันดีครับว่ากาแฟประเภทนี้ในบ้านเรานั้นยังอยู่ในขั้นที่ “ต่ำกว่ามาตรฐาน” มากมายไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของกรรมวิธีการผลิตหรือว่ารสชาติหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันครับว่า “เสียดายเงิน” นั่นจึงทำให้คนส่วนใหญ่เมินกาแฟประเภทนี้และหันมาบริโภคกาแฟสดกันมากขึ้น



 แต่อย่างไรก็ตามเมื่อไม่นานมานี้ผมเองได้มีโอกาสได้ลิ้มลองกาแฟประเภท Craft Coffee นี้อีกครั้งหนึ่งแต่ทว่ากาแฟที่ผมได้ลิ้มลองในครั้งนี้หาใช่กาแฟพื้นๆ ที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปหากแต่เป็นCraft Coffee สัญชาติสิงคโปร์ที่มีฐานโรงงานการผลิตอยู่ที่ประเทศเวียดนามอย่าง “Owl Coffee” นั่นจึงทำให้ผมตระหนักเลยครับว่าแท้จริงแล้วกาแฟสำเร็จรูปดีๆ ก็ยังคงมีอยู่ในโลกนี้ด้วยเช่นกันซึ่งถ้าจะว่าไปหากเรามองดูต่างชาติ ต่างประเทศเขาเราเองก็จะพบว่ามีบริษัทกาแฟสดชื่อดังเป็นจำนวนมากมายหลายแบรนด์เลยล่ะครับที่ขยายผลิตภัณฑ์และหันมาเอาดีทางด้านกาแฟ Freeze Dried ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือกาแฟเงือกเขียว Starbucks นั่นเอง

 กลับมาเรื่องของกาแฟ Owl Coffee กันต่อ!


 สำหรับกาแฟ Owl Coffee นั้นไม่แน่ใจครับว่าแพคเกจของเขามีอยู่กี่แบบแต่ที่ผมซื้อมาหลังจากที่ได้ลองชิมรสชาติจนติดใจเป็นแพคขนาด 342 กรัม บรรจุเป็นซองๆ ขนาด 19 กรัมจำนวนทั้งสิ้น 18 ซองซึ่งรูปลักษณ์ภายนอกของบรรจุภัณฑ์นั้นมองปั๊บรู้ทันทีเลยว่าเป็นกาแฟแนวต่างชาติแน่นอนเพราะมีการออกแบบไปในแนวเรียบแต่หรู ดูดีมีคลาส ไม่เหมือนกับของบ้านเราครับที่เน้นไปเรื่องสีสันฉูดฉาดหรือไม่ก็ดำทมึนทึน


 ส่วนในเรื่องของรสชาตินั้นเนื่องจากเป็นกาแฟประเภท Craft Coffee ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างกาแฟอาราบิก้าและโรบัสต้าตามสูตรลับเฉพาะของ Owl เองดังนั้นรสชาติที่ออกมาจึงมีความละมุนผสมผสานกันอย่างลงตัวมิหนำซ้ำยังผ่านกรรมวิธี Freeze Dried ทีได้คุณภาพจึงทำให้กาแฟตัวนี้คงรสชาติเอาไว้ได้ไม่ว่าจะเก็บไว้นานแค่ไหนรวมไปถึงยังได้รสชาติที่เข้มข้นเหมือนกันทุกซองอีกด้วยครับ

 ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ว่ามานี้ถ้าหากใครที่คิดว่ากาแฟ Craft Coffee จะต้องเป็นกาแฟระดับพรีเมียมที่จับต้องได้ยากและมีราคาที่แพงแล้วล่ะก็บอกเลยครับว่าคุณกำลังคิดผิดเพราะใครจะไปคาดคิดครับว่าซองใหญ่ขนาดนี้ คุณภาพดีขนาดนี้ใช้เงินไม่ถึง 100 บาท (ฟังไม่ผิดครับซองหนึ่งไม่ถึง 100 บาทเพราะราคาของมันคือ 99 บาทเท่านั้น) แถมยังหาซื้อง่ายตาม Super Market ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำอีกด้วยครับ

ดังนั้นถ้าหากบรรดาคอกาแฟสดท่านใด่์ที่อยากจะหวนมากลับมากินกาแฟสำเร็จรูปดีๆ แล้วล่ะก็ผมเองเชื่อว่ากาแฟ Craft Coffee ของ Owl จะไม่ทำให้คุณๆ ต้องผิดหวังอย่างแน่นอนครับเพราะประสบการณ์ในด้านการคั่วกาแฟของ Owl Coffee ที่สั่งสมมากว่า 60 ปีย่อมเป็นเครื่องการันตีคุณภาพความอร่อยได้อย่างแน่นอน

                                                                                                         กาลาโต้

วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2561 | By: กาลาโต้

อาราบิก้า ของดีที่ไม่มีใครสน


อาราบิก้า ของดีที่ไม่มีใครสน       
นับว่าเป็นกาแฟชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณและกลิ่นที่หอม ชวนให้อยากลองดื่มไม่เป็นรองใครเลยทีเดียวเป็นพืชพื้นเมืองของทวีปแอฟริกา  แต่พวกอาหรับนำมาชงดื่มเป็นกาแฟจึงใช้ชื่อว่าอาราบิก้าที่แปลว่าชาวอาหรับขอรับนิยมเพาะปลูกในเขตร้อนชื้อและกึ่งเย็น ในประเทศไทยนิยมปลูกกาแฟอาราบิก้าบนที่ดอยสูงแต่ก็ยังไม่นิยมเท่าโรบัสต้าซึ่งทำให้ราคาอาราบิก้า ค่อนข้างสูงเพราะไทยเราต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ Bangkokpost เคยนำเสนอเรื่องนี้ทำให้ผมเลยอยากลองศึกษาและทบทวนดูว่ากาแฟชนิดนี้ ดีอย่างไรและทำไมถึงไม่นิยมปลูกในประเทศไทยเรา 
อาราบิก้าเป็นกาแฟที่มีกลิ่นหอมและสารกาแฟสูง เวลาดื่มจึงรู้สึกมีชีวิตชีวาและกระปรี่กระเปร่ามีกาเฟอีนต่ำจึงเป็นของดีแต่ในบรรดาเหล่าพันธ์กาแฟทั้งหลายแต่ทำไมมันถึงไม่มีใครสนใจละ สาเหตุนี้มาจากการที่อาราบิก้าต้องปลูกในพื้นที่ดอยสูงและหากอากาศไม่ถูกใจก็จะเจริญเติบโตได้น้อยทำให้ผลผลิตได้ไม่เท่าที่ควร แตกต่างจากกาแกโรบัสต้าเพราะสายพันธ์โรบัสต้าเอาใจง่ายแม้อากาศจะแปรปรวนก็ไม่ทำให้ผลผลิตเสียหาย ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับอาราบิก้าหากปีไหนสภาพอากาศเล่นตลกไม่เป็นไปตามฤดูกาลก็จะทำให้ผลผลิตเสียหายถึงขาดทุนทำให้ไม่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ส่วนความโดดเด่นของอาราบิก้าก็มีตรงที่ความหอมละมุน อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็ได้กล่าวไว้ว่าอาราบิก้ามีกรดชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ขับปัสสาวะ น้อยกว่าเจ้าโรบัสต้าอยู่พอสมควรหากท่านสงสัยว่าปัสสาวะมากเกินไปจะทำให้เกิดผลอย่างไรต่อร่างกายของมนุษย์ ก็ไม่ยากสำหรับการหาข้อมูลมาให้ท่านผู้อ่านได้ทราบกันเท่าใดนักเพราะหากเราปัสสาวะหนักเกินไปก็มีผลทำให้กระเพาะปัสสาวะของเราทำงานหนักเกินไป อาจส่งผลให้เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคร้ายกว่าตามมาได้ ส่วนท่านใดสนอยากลองชิมกาแฟอาราบิก้าก็หาได้ไม่ยากในไทยเท่าใดนักหากแต่ราคาค่อนข้างสูงเพราะจำเป็นต้องนำเข้า มาเป็นจำนวนมากแต่สำหรับตัวกระผมมองว่าสรรพคุณและความโดดเด่นของอาราบิก้ามีค่าพอที่จะลองจ่ายราคาให้มันได้อยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ล้วนแล้วแต่ความเห็นของแต่ละท่านว่าจะชื่นชอบอาราบิก้ามากเพียงใดสำหรับบทความนี้หากข้อมูลผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยกระผมเพียงแต่อยากจะกระจ่ายข้อมูลที่มีประโยชน์ให้ทุกท่านได้ทราบ สำหรับใครที่นั่งจิบกาแฟอยากหาเกมส์เล่นเพลินๆกระผมก็มี เกมส์ยิงปลา มาแนะนำให้ท่านได้ลองเล่นดูเพราะนับว่าเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบันหรือหากท่านมิสนใจก็ควรหาหนังสือหนังอ่านเพิ่มความรู้ความสามารถให้แก่ตนเองนะครับ 


                                                                                                                 กาลาโต้
วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561 | By: กาลาโต้

ควันหลงงาน Thailand Coffee Festival 2018 จัดดี มีชาติตระกูล

คนรักกาแฟทุกท่านครับ



 ผ่านพ้นกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับกับงานมหกรรมกาแฟที่จัดขึ้นทุกปีอย่างงาน Thailand Coffee Festival 2018 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 8-11 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมาที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ ซึ่งผมเองเชื่อว่าคนรักกาแฟในกรุงเทพนั้นอาจจะไม่พลาดงานที่ว่านี้อย่างแน่นอนส่วนต่างจังหวัดที่ไม่สามารถมาได้ก็ไม่ต้องเสียอกเสียใจไปครับเพราะในวันนี้ผมเองจะมาพูดถึงเรื่องของงานในครั้งนี้ให้ทุกท่านได้ฟังกัน 


สำหรับงาน Thailand Coffee Festival 2018 ในครั้งนี้แรกทีเดียวเลยผมเองยอมรับครับว่าไม่ได้คาดหวังอะไรกับงานนี้มากมายสักเท่าไหร่นักเพราะเนื่องจากว่าการจัดงานเมื่อปีที่ผ่านมานั้นเป็นการจัดงานที่ต้องใช้คำว่า “น่าผิดหวัง” เอามากๆ ดังนั้นการไปงานในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการไปเป็นธรรมเนียมเสียมากกว่าครับ


แต่ทว่าพอไปถึงหน้างานผมเองเริ่มเปลี่ยนความคิดทันทีครับเพราะงานในครั้งนี้ดูดีมีชาติตระกูลมาก มีร้านรวงมาออกบูธกันอย่างคับคั่งไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟแบรนด์ดังแบรนด์ใหญ่ ร้านขายอุปกรณ์กาแฟ รวมไปถึงบรรดาผู้ประกอบการร้านกาแฟขนาดเล็ก ขนาด kiosk, ผู้ที่ปลูกกาแฟในพื้นที่ท้องถิ่นต่างมาร่วมงานกันมากมายเรียกได้ว่ามีการใช้พื้นที่ได้เต็มและมีประสิทธิภาพจึงทำให้งาน Thailand Coffee Festival ที่จัดขึ้นในปีนี้ ดูดี และ มีความสมบูรณ์มากแต่ทว่าเพราะความสมบูรณ์แบบนี่แหละครับที่ทำให้ผู้ร่วมงานจำนวนไม่น้อยต่างมองว่ามันทำให้เสน่ห์ของงานกาแฟลดลงไป ซึ่งเราจะมาดูเหตุผลของพวกเขากันครับ




ถึงแม้ว่างานโดยรวมในปีนี้จะออกมาดีมากก็ตามทีแต่ทุกท่านเชื่อไหมครับว่ามีผู้เข้าร่วมงานจำนวนไม่น้อยที่ทำแบบสอบถามความพึงพอใจออกมาได้ค่าเฉลี่ยอยู่ในความพึงพอใจระดับกลางๆ หรือสูงกว่ากลางหน่อยเป็นจำนวนมากซึ่งเหตุผลที่คนเหล่านั้นให้คะแนนเช่นนี้ก็ด้วยเหตุผลที่ว่างานในปีนี้ถึงแม้ว่าจะมีร้านมาออกบูธเป็นจำนวนมากก็ตามทีแต่แทบจะทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่เป็นร้านขายสินค้ามากกว่าบูธที่ให้ความรู้หรือเรื่องราวของกาแฟแถมเจ้าของร้านขายอุปกรณ์และคอร์สอนทำกาแฟรายใหญ่ๆ ก็เอาพื้นที่ไปแบบกว้างขวางดังนั้นจึงทำให้กลบรัศมีของร้านเล็กๆ และดึงดูดความสนใจผู้ชมงานไปซึ่งก็ถือว่ามีเหตุผลไม่น้อยครับ




 แต่อย่างไรก็ตามผมเองอยากที่จะบอกทุกท่านครับว่างาน Thailand Coffee Festival 2018 ปีนี้จัดได้อย่างงดงามลงตัวจริงๆ ส่วนเรื่องที่จะปรับปรุงและแก้ไขในส่วนที่ยังบกพร่องนั้นทางผู้จัดงานเองเขาก็รับไว้พิจารณาแล้วดังนั้นในปีหน้าเราอาจจะเห็นงาน Thailand Coffee Festival ที่ดีกว่าปีนี้ก็เป็นได้ครับ





หวังให้เป็นเช่นนั้นครับ

                                                                                                                            กาลาโต้
วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561 | By: กาลาโต้

เรื่อง...หมาๆ

สวัสดีปีใหม่ ปี 2561 ครับแฟนานุแฟน "เรื่องของคนรักกาแฟ" ทุกท่าน


จั่วหัวเรื่องมาว่า "เรื่องหมาๆ" ทุกท่านอย่าเพิ่งคิดว่ามาด่าหรือว่ามาต่อว่านะครับอีกทั้ง blog เรื่องของคนรักกาแฟของเราก็ยังคงเป็น Blog กาแฟอยู่เหมือนเดิม ยังไมไ่ด้เปลี่ยนแนวไปเป็น blog เพื่อนรักสัตว์เลี้ยงหรืออะไรทำนองนั้นหรอกนะครับหากแต่ที่ผมจั่วเรื่องมาในวันนี้ก็เพื่อเริ่มต้นเรื่องราวของปีจอ ปีหมากันด้วยหนังสือพ็อคเก็ตบุคส์เล่มหนึ่งที่มีเรื่องราวของ "คนเขียน สัตว์เลี้ยงที่เป็นหมา และศรีภรรยาที่ดันมาเกี่ยวข้องกับ "กาแฟ" อย่าง "กาแฟ หมา เมีย" นั่นเองครับ



ผมเองเชื่อว่าหลายท่านน่าจะเคยผ่านตาหรือว่าคุ้นหูกับหนังสือ "กาแฟ หมา เมีย" กันมาพอสมควรแล้วครับเพราะเนื่องจากว่าหนังสือเล่มนี้ได้วางขายมาหลายปีแล้วและในปัจจุบันนี้ก็ยังมีการวางขายอยู่บ้างบางแห่งซึ่งเนื้อหาของหนังสือนั้นเป็นเรื่องราวไลฟ์สไตล์ สบายๆ ของนักเขียนชื่อดังแห่งสำนักพิมพ์มติชนอย่าง "ชาติ ภิรมย์กุล" ที่เขียนเล่าเรื่องร้านกาแฟท่ี่น่าสนใจผสมผสานกับเรื่องการบ้าน การมุ้งอย่างเจ้าปั๊ก เจ้าปอน สองสุนัขสามัญประจำบ้านกับศรีภรรยาของเขา ทำให้เข้ากับนิยามของหนังสือเล่มนี้ที่ว่า



"จิบกาแฟ แฉวีรกรรมหมา นินทาเมีย"


อนึ่งถ้าหากใครคิดว่าจะได้เรื่องราวความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกาแฟและวงการกาแฟ หนังสือ "กาแฟ หมา เมีย" เล่มนี้คงไม่เหมาะสมเป็นอย่างมากครับด้วยว่าตัวของคุณชาติ ภิรมย์กุลเองนั้นแกเป็นนักเขียนที่ไม่ได้ crazy กาแฟแต่อย่างใด ดังนั้นเรื่องกาแฟที่แกเขียนออกมาจึงเป็นการบรรยายเล่าเรื่องต่างๆ ของกาแฟบ้าง ของร้านกาแฟบ้างแบบพื้นๆ ขอเน้นว่าพื้นๆ) เพื่อปูเรื่องไปสู่สิ่งที่แกอยากเล่าแต่ถึงกระนั้นก็ดูแคลนไม่ได้เลยครับเพราะด้วยฝีมือและลีลาการเขียนนั้นแม้จะไม่ได้ทำให้กาแฟโดดเด่นแบบพีคสุดๆ แต่ก็สามารถทำให้เราอยากอ่านตอนต่อๆไป ได้เรื่อยๆ จนจบเล่ม ดังนั้นมันจึงเป็นหนังสือของคนรักกาแฟที่ควรมีติดกระเป๋า เอาไว้อ่านเพื่อฆ่าเวลาและเพื่อการผ่อนคลายอย่างแท้จริง

                                                                                                            กาลาโต้