คนรักกาแฟทุกท่านครับ
สำหรับข่าวเด่นดังในแวดวงกาแฟระดับโลกเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพาดต่อมาจนกระทั่งถึงสัปดาห์นี้ผมเองเชื่อว่าคงไม่มีข่าวไหนที่ดังและเป็นที่พูดถึงมากไปกว่าข่าวที่บริษัทน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างบริษัท Coca Cola ประเทศสหรัฐอเมริกาปิดดีลซื้อกิจการร้านกาแฟสดอันดับต้นๆ ของโลกอย่าง "Costa Coffee" ที่มีสาขาราวๆ 3000 สาขาไปด้วยมูลค่าที่สูงถึง 5,100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกาซึ่งถ้าเทียบเป็นเงินไทยแบบกลมๆ ก็ราวๆ 163,000,000 บาท (หนึ่งแสนหกหมื่นสามพันล้านบาท) ซึ่งข่าวดังกล่าวที่ว่านี้เชื่อว่าน่าจะทำให้คอกาแฟและคอน้ำอัดลมรวมไปถึงผู้ที่สนอกสนใจหรือได้ยินข่าวนี้จำนวนไม่น้อยเลยต่างสงสัยกันว่าทำไมหรือเหตุใดบริษัท Coca Cola จึงต้องทุมเงินมหาศาลเพื่อซื้อกิจการที่ตนเองไม่ถนัดด้วยดังนั้นในวันนี้เราจะมาวิเคราะห์และพูดคุยถึงเรื่องนี้กันครับ
"ก็เพราะว่า Coca Cola นั้นเป็นบริษัทที่ผลิตน้ำอัดลมและไม่ได้อยู่ในวงการกาแฟมาตั้งแต่แรกแล้วน่ะสิครับดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องซื้อร้านกาแฟ Costa Coffee มาต่อสู้กับร้าน Starbucks จริงไหมครับ!"
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมองว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าฉุกคิดก็คือบางทีการที่ Coca Cola เลือกที่จะซื้อร้านกาแฟ Costa Coffee มาเป็นของตนเองนั้นบางทีมันก็อาจจะเป็นการขยายไลน์ธุรกิจและเป็นการต่อยอดการลงทุนใหม่ๆ ของทาง Coca Cola เองก็เป็นได้ครับ
สาเหตุที่ผมมองเช่นนี้ก็เพราะเนื่องมาจากว่า 1-2 ปีก่อนหน้านี้ประชากรโลกเริ่มหันมาสนใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้นทำให้ตลาดน้ำอัดลมต้องปรับแผนการตลาดกันยกใหญ่ดังจะเห็นได้จากการออกเครื่องดื่มน้ำอัดลมประเภทที่ไม่มีน้ำตาลออกมากันอย่างมากมายแทบจะทุกเจ้า แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้วงการน้ำอัดลมกระเตื้องขึ้นสักเท่าไหร่นักกลับกันในขณะที่ตลาดกาแฟสดของโลกเองถึงแม้ว่าจะไม่หวือหวาสักเท่าไหร่แต่ทว่ามันเองกลับเคลื่อนที่ เติบโต ก้าวหน้าไปได้เรื่อยๆ ดังนั้นการที่ Coca Cola คิดจะลงทุนในธุรกิจกาฟจึงยังคงมีโอกาสในการเติบโตและประสบความสำเร็จได้อีกมากพอสมควรมิหนำซ้ำการที่ Coca Cola เองเลือกที่จะซื้อร้านกาแฟที่มีสาขาอยู่มากมาไว้ในกำมือก็จะช่วยให้การดำเนินธุรกิจกาแฟสดของ Coca Cola ดำเนินการได้ง่ายขึ้นไม่ต้องไปนับหนึ่งใหม่
หรือว่าไม่จริง!!
กาลาโต้