วันพุธที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 | By: กาลาโต้

Outside World : Have You AJOed Today?



       สวัสดีพี่ๆ เพื่อนๆ คนรักกาแฟทุกท่านครับ วันนี้ผมมีบทความน่าสนใจดีๆ ที่แม้ไม่เกี่ยวข้องกับกาแฟโดยตรงก็ตามแต่ก็ถือว่าเป็นปรากฎการณ์ที่กำลังเป็นที่ระบาดมากในต่างประเทศพอสมควรมาให้ได้อ่านกัน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวที่ว่านี้ถือเป็นการส่งต่อความดีหรือ Pay It Forward อย่างหนึ่งที่น่าสนใจมากดังนั้นผมขอเรียกปรากฎการณ์ที่ว่านี้ว่า "AJO Phenomenon" หรือ ปรากฎการณ์ AJO ก็แล้วกันครับ


       จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดนี้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2556 เมื่อลูกสาวของครอบครัว โอ'นีล (O’Neills) ที่ชื่อว่า Alyssa J O’Neill ได้ล้มป่วยด้วยโรคลมชักหรือลมบ้าหมู ซึ่งอาการของเธอในขณะนั้นอยู่ในขั้นที่เรียกได้ว่าเป็นอันตรายต่อชีวิตมาก ตัวเธอเองก็คงทราบดีว่าอาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานจึงได้ SMS ข้อความไปบอกแม่ของเธอว่าอยากให้แม่ของเธอพากินไป Pumpkin Spice Latte หรือ กาแฟลาเต้ฟักทองของร้าน Starbucks สักครั้งหนึ่งซึ่งแม่เธอก็รับปากแต่ยังไม่ทันได้ไปด้วยกัน Alyssa ก็มาเสียชีวิตไปเสียก่อน

       เมื่อจัดงานศพของ Alyssa เสร็จสิ้นลงไปแล้ว แม่ของ Alyssa ก็คิดอยากที่จะทำความฝันก่อนตายของลูกสาวให้เป็นจริงถึงแม้ว่า ณ วันนี้จะไม่มีเธออยู่บนโลกนี้แล้วก็ตามเธอจึงได้ตัดสินใจไปที่ร้านกาแฟ Starbucks สาขาที่ใกล้บ้านเธอพร้อมกับสั่งกาแฟ Pumpkin Spice Latte ให้กับคนที่ไม่รู้จักในร้านจำนวนทั้งสิ้น 40 แก้วโดยขอให้ทาง Barista ของร้านช่วยเขียน Hashtag คำว่า #AJO (ย่อมาจากคำว่า Alyssa J. O'Neill ซึ่งเป็นชื่อของลูกสาวเธอ) ติดข้างแก้วเพื่อเป็นการแสดงความระลึก


       ถ้าเรื่องราวจบลงแค่ตรงนี้ก็ไม่น่าจะเป็นกิจกรรม Pay it forward ที่โด่งดังสักเท่าไหร่ แต่เมื่อผู้จัดการและพนักงานร้าน Starbucks ได้ทราบความประสงค์และเรื่องราวทั้งหมดจากแม่ของ Alyssa พวกเขารู้สึกชื่นชมในความตั้งใจของเธอมากจึงได้ตัดสินใจร่วมกันทำ Pumpkin Spice Latte สมทบเพื่อแจกให้กับลูกค้าให้ฟรีเพิ่มอีก 50 แก้ว เท่านั้นแหละครับจึงเกิดปรากฎการณ์ AJO ขึ้นและเมื่อข่าวนี้ได้แพร่หลายออกไปจึงมีคนติด Hashtag #AJO กันมากขึ้นๆ และกลายเป็นเรื่อง Talk Of The Town ระดับโลกในที่สุด


       นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนกระทั่งบัดนี้การทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนหรือการส่งต่อความดีหรือส่งต่อความสุขให้กับคนอื่นๆ แบบ #AJO นั้นก็ไม่ได้อยู่แค่เพียงการแจกเครื่องดื่มแบบที่ Starbucks ได้ทำเท่านั้นแต่ยังแพร่ระบาดไปยังเรื่องอื่นๆ อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินค่าของขวัญคริสต์มาสที่คนอื่นค้างไว้ การช่วยเหลือคนอื่นในเรื่องที่พอจะช่วยได้เป็นต้น โดยมีการติด Hashtag #AJO เพื่อเป็นที่ระลึกแก่ Alyssa อีกด้วย


       ในปัจจุบันคำว่า AJO ได้กลายเป็นคำ Slang ที่ใช้พูดในความหมายว่าการทำความดีให้กับสังคมโดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ดังนั้นหากเราไปยังต่างประเทศแล้วมีคนพูดถึง AJO ก็ขอให้รู้ไว้เลยครับว่าเขากำลังพูดถึงการทำดีหรือการส่งต่อความดีให้กับผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนซึ่งเข้าทำนอง Pay It Forward นั่นเองและนับวันในโลกสังคมไซเบอร์ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Instagram หรือแม้แต่ Pinterest ก็ยังมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ AJO มากขึ้นและต่อเนื่องขึ้นเรื่อยๆ โดยสามารถลอง Search จาก Hashtag คำว่า #AJO ดูก็ได้ครับ

       ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่หนึ่งในตัวอย่างของการทำดีแบบ Pay It Forward ที่นับวันเริ่มจะมีน้อยลงๆ ในโลกใบนี้ครับ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีในปัจจุบัน ว่าแต่ว่าวันนี้ คุณ Have You AJOed Today? บ้างหรือยังครับ @^_^@


                                                                                                          กาลาโต้

วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 | By: กาลาโต้

Blend Storming : ยังฮิตไม่เลิกกับกาแฟถุงกระดาษ



       สวัสดีปีม้า 2557 สำหรับคนรักกาแฟทุกท่านนะครับปีนี้ขอให้เป็นปีที่ดี เป็นปีที่สมหวังสำหรับทุกคน อย่าเจ็บ อย่าจนนะครับ สำหรับเปิดประเดิมบทความแรกของปีนี้เห็นทีคงจะไม่พูดเรื่องของ "กาแฟถุงกระดาษ" ไม่ได้เสียแล้วครับเพราะต้องเรียกว่าเป็นของยอดฮิตตั้งแต่ปีที่แล้วพาดยาวมาถึงปีนี้กันเลยทีเดียว
     

       เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วนะครับว่าโฉมหน้าที่แท้จริงแล้วของเจ้ากาแฟถุงกระดาษนี้ก็คือกาแฟโบราณสมัยคุณปู่ คุณย่า เราดีๆ นี่เองแต่นำมาแต่งตัวใหม่ให้โดดเด่น ไฉไล และมีเอกลักษณ์มากขึ้นโดยนำเอาถุงกระดาษที่มีเนื้อกระดาษคล้ายๆ กับถุงปูนซีเมนต์มาห่อหุ้มไว้ข้างนอกอีกทีหนึ่ง โดยบรรดาร้านกาแฟถุงกระดาษทุกร้านมักชูจุดขายคือการเก็บรักษาความเย็นที่มากกว่าปกติ 6-8 ชั่วโมงและแน่นอนครับว่าเมื่อรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปสนนราคาก็ย่อมที่จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน จากเดิมที่ราคาของกาแฟโบราณจะอยู่ประมาณถุงละ 15-20 บาท แต่เมื่อมีการแปลงร่างเป็นกาแฟถุงกระดาษราคาจะขยับขึ้นเป็นถุงละ 25-30 บาททันทีแล้วแต่เจ้า แล้วแต่ยี่ห้อ ซึ่งเมื่อหักลบต้นทุนแล้วนั่นก็หมายถึงกำไรที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
     

              ปัจจุบันมีร้านขายกาแฟถุงกระดาษผุดขึ้นมากมายราวกับดอกเห็ดโดยมีทั้งที่ทำเองหรือสร้างแบรนด์เองและซื้อแฟรนไชส์กาแฟถุงกระดาษมาทำ ซึ่งหากจะให้คาดการณ์สถานการณ์ในปีนี้ของกาแฟถุงกระดาษก็คงต้องบอกว่ายังพอมีลู่ทางไปได้อยู่ครับอีกทั้งยังไม่เป็นคู่แข่งใดๆ หรือมีผลกระทบใดๆกับธุรกิจกาแฟสดอีกด้วยเพราะเนื่องจากว่า Target Group ของกาแฟสดและกาแฟถุงกระดาษนั้นเป็นคนละกลุ่มนั่นเอง แต่สิ่งหนึ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือหากกาแฟถุงกระดาษยังคงเปิดแข่งขันกันมากมายอยู่แบบปัจจุบันนี้เชื่อว่าอีกไม่นานธุรกิจกาแฟถุงกระดาษคงจะถึงจุดอิ่มตัวเฉกเช่นเดียวกับธุรกิจที่มาไว ไปไว แบบอื่นๆ ดังนั้นหากผู้ประกอบการไม่เตรียมตัวหรือวางแผนให้ดีเมื่อถึงเวลานั้นอาจทำให้ปรับตัวไม่ถูกหรือปรับตัวไม่ทันการณ์ก็เป็นได้ครับ

       สุดท้ายนี้ผมมีรูปของ 5 เหตุผลหลักที่ทำให้กาแฟถุงกระดาษฮิตทั่วไทยจากเว็บผู้จัดการออนไลน์ (www.manager.co.th) มาฝากกันครับ เชื่อว่าเมื่อดูแล้วคงจะมีความคิดดีๆ เกี่ยวกับกาแฟถุงกระดาษเพิ่มมากขึ้นอีกเยอะ สวัสดีครับ


                                                                                                                       กาลาโต้