วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2559 | By: กาลาโต้

6 เคล็ดลับฮวงจุ้ยร้านกาแฟ จัดแล้วดี เรียกเงิน เรียกลูกค้า


สวัสดีคนรักกาแฟทุกท่านครับ


หากจะเอ่ยถึงธุรกิจที่เป็นธุรกิจยอดฮิตของคนไทยในยุคนี้เชื่อเหลือเกินครับว่าคงจะหนีไม่พ้นธุรกิจร้านกาแฟสดที่เป็นธุรกิจที่เขาโปรโมทโฆษณากันว่าแค่ตั้งน้ำให้เดือดก็ขายได้แล้ว

แต่ทว่าในยุคที่เศรษฐกิจเฉื่อยชาตกสะเก็ดเช่นนี้ทำให้ร้านกาแฟสดทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นหน้าเก่าหรือใหม่ต่างโอดครวญกันเป็นทิวแถวเพราะเนื่องจากว่ายอดขาย รายได้ลดลงดังนั้นจึงจำเป็นต้องพึ่งความเชื่อและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บ้างก็ไหว้ชูชกแม่นางกวัก บ้างก็จัดเครื่องรางสารพัดประเภทมาแขวนเพื่อเรียกลูกค้า ดังนั้นทาง "เรื่องของคนรักกาแฟ" ในวันนี้ขอแหวกแนวด้วยการนำเสนอเรื่องของการจัดฮวงจุ้ยในร้านกาแฟครับซึ่งวิธีนี้ได้มีคนเคยนำไปใช้รวมไปถึงร้านกาแฟแบรนด์ใหญ่ๆ ในบ้านเราซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี ซึ่งวิธีการจัดฮวงจุ้ยร้านกาแฟที่ว่านี้มีด้วยกัน 6 ข้อซึ่งเราจะไปดูพร้อมๆ กันครับ

1. ทำเลที่ตั้ง



ในภาษาฮวงจุ้ยหรือ feng shui ของจีนนั้นจะเรียก "ทำเล" ว่าพลังชี่ ซึ่งหมายถึงพลังงานที่มีการเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆ เหมือนกับสายน้ำซึ่งก็คือทำเลที่มีผู้คนมากมายเดินผ่านตลอดเวลาอาทิเช่น ตลาดนัด, ห้างสรรพสินค้า, ตึก อาคาร สำนักงาน, ออฟฟิศต่างๆ

สำหรับพลังชี่นั้นบางคนอาจจะเลือกร้านที่อยู่ริมถนนใหญ่เพราะคิดว่าพลังชี่ในบริเวณนั้นย่อมไหลแรงไม่หยุด แต่ถามว่าทำไมถึงยังขายไม่ดี นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่มีที่ดักจับพลังงานซึ่งก็คือที่จอดรถนั่นเองนอกจากนี้ทำเลต้องห้ามของ ร้านกาแฟ ตามหลักฮวงจุ้ยคือใต้สะพาน เหตุเพราะมองเห็นยาก ดูทึบหมอง ไม่น่าเข้า วิธีแก้คือการออกแบบด้านหน้า ให้มีรูปทรงสามเหลี่ยมพุ่งเข้าใส่สะพาน แล้วควรดูแลเรื่องการจัดแสงให้ดี เน้นเรื่องป้ายให้ลูกค้าเห็นชัดเจนขึ้น

2. การวางเคาน์เตอร์คิดเงิน


ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วจะยึดด้านขวาเป็นมังกร ด้านซ้ายคือเสือขาว โดยมังกรนั้นมีความหมายถึงการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เสือขาวคือการหยุดนิ่ง เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรเอาเครื่องคิดเลขไว้ฝั่งขวา เพราะนั่นหมายถึงการมีเงินเท่าไหร่ก็ใช้จนหมด หากต้องการเก็บเงินให้อยู่ควรตั้งไว้ด้านซ้ายแทน

3. เทคนิคการจัดร้าน

สำหรับการจัดวางสิ่งของภายในร้านเราจะต้องอาศัยหลักของเลข 8 เข้ามาช่วย ความหมายคือ การจัดวางที่ทำให้เกิดการเดินดูได้โดยรอบ ซ้ำไปซ้ำมา มันเหมือนกับการดักลูกค้าให้เข้ามาในอวยแล้วหาทางออกไม่เจอนั่นเอง

4. จำนวนประตูภายในร้าน



ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วร้านกาแฟไม่ควรที่จะมีประตูหลายบาน ประตูเข้าออกควรมีบานเดียว เพื่อง่ายในการดูแลร้าน มองเห็นคนเข้าออกได้ทุกคน ประตูร้านที่ดีไม่ควรมีสิ่งกีดขวางด้านหน้า ควรเป็นมุมที่เปิดกว้างให้มากที่สุด พร้อมที่จะรับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าในกรณีที่มีเสาอยู่ภายในร้านด้านหน้าประตูทางเข้า ทางแก้ง่ายๆคือเอากระจกเงามาปิดทั้งเสา กระจกจะช่วยในเรื่องของมุมมองลูกค้า ทำให้เกิดความรู้สึกกว้างขึ้น แล้วจะทำให้สินค้าดูดีและน่าสนใจมากขึ้น

5. กระจกเงา 

ในการจัดหน้าร้าน ควรเอากระจกมาวางหรือประดับร้านบ้าง เพราะคนเราเวลาเดินผ่านกระจกเงามักชอบหันไปมอง ตรงนี้จึงเป็นส่วนที่ดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจร้านมากขึ้น

6. แสง สี เสียง กลิ่น อย่าให้บกพร่อง



ในการออกแบบร้านกาแฟเราควรออกแบบโดยใช้สีเอิร์ธโทน เช่น สีน้ำตาล เขียว ขาว หรือสีที่ดูสบายตา เพื่อสร้างบรรยากาศผ่อนคลายให้กับลูกค้ามากที่สุด อีกทั้งกาแฟนั้นถือเป็นธาตุน้ำ เราจึงไม่ควรที่จะเอาสีธาตุไฟไปชน ส่วนเรื่องการจัดแสงนั้นก็ไม่ควรให้มากหรือน้อยจนเกินไป โดยควรแบ่งแสงไฟออกเป็น 2 ประเภท อันดับแรกคือจัดแสงทั่วไป เพื่อคุมโทน และอีกประเภทคือ ไฟที่ส่องตามกำแพงหรือตามหัวเสาต่างๆ เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่น่าสนใจมากขึ้น นอกจากนี้เรื่องของกลิ่นซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ถือเป็นเสน่ห์ของร้านกาแฟเลยก็ว่าได้ สิ่งนี้ทำให้ร้านกาแฟร้านดังสามารถประสบความสำเร็จได้ เพราะกลิ่นของกาแฟจะดึงดูดให้คนเข้าร้านมากขึ้น รวมไปถึงเพลงที่ใช้เปิดก็ควรเป็นเพลงสบายๆ ตามหลักของร้านธาตุน้ำ เพื่อสร้างความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้เข้ามา

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือ 6 เคล็ดลับหลักในการจัดฮวงจุ้ยร้านกาแฟที่ถ้าหากร้านใดทำตามได้โอกาสร่ำรวยจากอาชีพนี้มีกองเอาไว้ 50% แล้วครับส่วนอีก 50% ที่เหลือนั้นอยู่ที่ฝีมือ ความสามารถและความพยายามของเรา

แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้านะครับ สวัสดีครับ

                                                                                                                          กาลาโต้

Cr. I See Magazine
วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559 | By: กาลาโต้

เก็บตกงาน Thailand Coffee Fest 2016 งานกาแฟระดับประเทศ

สวัสดีคนรักกาแฟทุกท่านครับ



ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อแล้วกับงาน Thailand Coffee Fest 2016 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมาที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ซึ่งงานนี้ถือเป็นงานกาแฟงานแรกของปีจึงทำให้มีผู้คนให้ความสนใจมากพอสมควรดังนั้นจึงมีร้านกาแฟแบรนด์ดังและไม่ดังมากมายเข้าร่วมงานซึ่งผลการจัดงานนั้นถือเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมากครับ



สำหรับธีมของการจัดงานในครั้งนี้เท่าที่สังเกตดูพบว่านอกจากการมาเปิดตัวร้านกาแฟของตนเองให้คอกาแฟได้รับทราบ มีการออกร้านขายกาแฟสดเมล็ดกาแฟสดและอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ในแวดวงกาแฟแล้วไฮไลท์ของมันคงหนีไม่พ้นการเปิดตัวของร้านกาแฟแบรนด์ใหม่ล่าสุดอย่าง "กาแฟมวลชน" ที่เป็นของ CP Retaillink ที่เป็นผู้ประสานงานให้บริการกาแฟอยู่ตามร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven นั่นแหละครับซึ่งการเปิดตัวแบรนด์กาแฟมวลชนในครั้งนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกให้คอกาแฟและนักการตลาดแวดวงกาแฟทั้งหลายมองไปในทิศทางเดียวกันว่า "ปีนี้ธุรกิจกาแฟยังคงไปได้" ซึ่งเรื่องของเจ้ากาแฟมวลชนนี้ค่อนข้างน่าสนใจซึ่งเราจะคุยกันในตอนต่อๆ ไปแบบเจาะลึกกันครับ



ส่วนอีกหนึ่งไฮไลท์ที่เชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับคนอื่นๆ แต่เป็นเรื่องธรรมดาๆ สำหรับผมนั่นก็คือในงานนี้มีบูธของ Nescafe Dolce Gusto ที่เป็นผู้นำในเรื่องของกาแฟและเครื่องชงกาแฟแบบ Nespresso มาออกงานตระหง่านท่ามกลางแวดวงล้อมร้านกาแฟสดมากมายอย่างกล้าหาญชาญชัยแถมยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอีกด้วย



หากใครเคยได้อ่านบทความก่อนหน้านี้ที่่ผมได้เขียนเกี่ยวกับเจ้า Nescafe Dolce Gusto ไปคงอาจจะผ่านหูผ่านตาในเรื่องที่ผมได้ทำนายเอาไว้ว่าในปี 2559 นี้วงการ Nespresso และเครื่องชงกาแฟแบบ Capsule จะเหลืออยู่เฉพาะตัวจริงในวงการเท่านั้นส่วนพวกที่ทำตามกระแสในปีก่อนหน้าจะล้มหายตายจากไป ซึ่งงานนี้ก็เริ่มส่งผลให้เห็นภาพชัดเจนแล้วครับเพราะในงานนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเครื่องชงกาแฟแบบ capsule มาร่วมงานน้อยมากทั้งๆ ที่ผู้จัดงานเขามีการเชิญออกไปอย่างมากมาย บางรายที่เคยให้ข้อมูลเอาไว้ก็เลิกกิจการ ปิดกิจการ บางรายก็ผันไปทำอย่างอื่น ท้ายที่สุดแล้วมีมาไม่กี่เจ้าและเจ้าที่โดดเด่นที่สุดก็คือ Nescafe Dolce Gusto นี่แหละครับที่มีคนรุมล้อมให้ความสนใจเข้ามาถามไถ่ข้อมูลและทดลองแวะเวียนเข้ามาชิมและลงเอยด้วยการหิ้วกลับบ้านไปในที่สุด



จากการที่ผมได้พุดคุยกับพนักงานและผู้เชี่ยวชาญของ Nescafe Dolce Gustro ที่มาออกบูธโดยไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ Blog ทำให้ได้รับความรู้มากมายเกี่ยวกับกาแฟชนิดนี้ครับอีกทั้งยังได้รู้เคล้ดลับต่างๆ นานามากมายว่ากว่าจะก่อเกิดถือกำเนิดเป็นเจ้า Nescafe Docle Gusto นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแถมพนักงงานประจำบูธแต่ละคนต้องบอกเลยครับว่าได้รับการเทรนมาดีตอบคำถามได้ทุกอย่างที่ลูกค้าหรือผู้สนใจต้องการอยากรู้ ไม่ได้จ้างมาเพื่อแค่ทำหน้าสวย เทกาแฟ แจกใบปลิวแล้วจบกัน ส่วนเรื่องลับๆ และเคล็ดลับของมันที่ผมได้มาจากงานนี้คืออะไรนั้นเราจะไปคุยกันในตอนหน้ารับรองได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากมายส่วนตอนท้ายนี้เราไปปิดท้ายกันด้วยภาพบรรยากาศกันดีกว่าครับ











                                                                                                                        กาลาโต้