วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 | By: กาลาโต้

Eineterview : หมอดู 24 ชั่วโมง



       สวัสดีคนรักกาแฟทุกท่านครับ ขอต้อนรับทุกท่านสู่ Section ใหม่ของเรา Eineterview (เป็นคำผสมระหว่าง Caffeine และ Interview นั่นเองครับ) ซึ่งในส่วนๆ นี้จะเป็นการสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ ที่เป็นที่น่าสนใจทั้งในวงการกาแฟและไม่ใช่ในวงการกาแฟมาให้เพื่อนๆ คนรักกาแฟทุกคนได้อ่านกันโดยประเดิมเริ่มแรกในครั้งนี้ผมขอนำเสนอ "หมอดู 24 ชั่วโมง" ที่เริ่มมีการพูดถึงกันในโลกอินเตอร์เน็ตมาเป็นแขกรับเชิญคนแรกครับ

       จำได้ว่าผมได้พบกับอาจารย์ท่านนี้ครั้งแรกตอนไป McDonald's สาขาอาคาร CP กำลังนั่งดูดวงให้ลูกค้าอยู่และเห็นอีกหลายครั้งด้วยกันตามที่ต่างๆ ทั้งร้านฟาสต์ฟู้ด ร้านกาแฟ ด้วยความที่น่่าสนใจจึงได้ติดตามเป็นลูกเพจของอาจารย์และในที่สุดก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์จนเป็นที่มาของบทความนี้ครับ จะเป็นหมอดูแบบไหน แล้วทำไมต้อง 24 ชั่วโมงไปชมพร้อมกันครับ


Galato : สวัสดีครับอาจารย์อภินันท์ ได้ข่าวว่าเป็นหมอดู

อ.อภินันท์ : สวัสดีครับ (ยิ้ม) ครับผมตอนนี้ประกอบอาชีพรับทำนายดวงชะตาอยู่ครับ

Galato : ลูกค้าเยอะไหมครับ

อ.อภินันท์ : ก็มีเรื่อยๆ ครับ ตามอัตภาพ

Galato : แล้วดูดวงแบบไหนอยู่ครับ เห็นมีไพ่ตั้งอยู่ ไพ่ยิปซีหรือไพ่ป๊อกครับ

อ.อภินันท์ : อ๋อ ไพ่ที่ผมใช้ทำนายดวงชะตาเรียกว่าไพ่พรหมญาณครับ เป็นศาสตร์การทำนายอย่างหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องของแม่นยำอีกทั้งยังเป็นไพ่ที่คนไทยคิดขึ้นมาอีกด้วยครับ



Galato :  แล้วการดูดวงของอาจารย์ดูอย่างไรครับ ช่วยอธิบายหน่อย

อ.อภินันท์ : หากเป็นการดูด้วยไพ่พรหมญาณจะดู 2 รอบโดยรอบแรกจะให้ผู้ดูจับไพ่ 12 ใบเพื่อดูเรื่องราวรวมๆ จากนั้นจะให้ผู้ดูถามคำถามได้ 8 คำถาม แต่ถ้าดูดวงแบบไพ่เทพก็จะจะใช้ไพ่เทพ 12 ใบทำนายเลย

Galato : แล้วแบบไหนแม่นกว่ากัน

อ.อภินันท์ : (หัวเราะ) ก็แล้วแต่ครับเพราะผมเองก็อ่านไปตามหน้าไพ่แม่นหรือไม่แม่นผู้ดูเป็นคนตัดสิน

Galato : จำได้ว่าเคยเห็นอาจารย์ตามร้านแมคโดนัลด์บ้าง ร้านกาแฟบ้าง ไปทำอะไรที่นั่น

อ.อภินันท์ : ก็ไปดูดวง ตรวจชะตาให้กับผู้ที่อยากดูดวงนั่นแหละครับ บางคนจะมาดูที่ๆ เราดูอยู่ประจำก็อาจจะไกลบ้าง ไม่สะดวกบ้าง ก็เลยอำนวยความสะดวกให้เขาทีนี้มาเยอะเลยครับร้านอาหาร ร้านฟาสต์ฟู้ด ในวัดก็เคยมี (หัวเราะ) คือเขาบอกว่าวันนี้จะไปทำบุญให้ญาติที่วัดอยากให้แวะไปดูให้หน่อย


Galato : แล้วอาจารย์ก็ไป?

อ.อภินันท์ : ใช่ครับถ้าไม่ไกลมากเราก็ไปแต่ถ้าไกลจริงๆ ลูกค้าก็จะส่งค่ารถมาให้ด้วยเพราะเห็นเราเดินทางเหนื่อย เกรงใจ แต่ถ้าไม่ติดอะไรจริงๆ เราก็ไปหมดครับเพราะเรารู้ดีว่าคนเราพอเวลามีเรื่องไม่สบายใจก็อย่ากให้มันรู้เรื่อง รู้ราวจบๆ ไป ดังนั้นจึงไม่พยายามปฏิเสธหากไม่จำเป็นเพราะใจเขาใจเราครับ

Galato : แล้วฉายาหมอดู 24 ชั่วโมงคืออะไรครับ?

อ.อภินันท์ : (หัวเราะ) อ๋อ เรื่องของเรื่องก็คือว่าลูกค้าบางคนนั้นไม่สะดวกมาดูดวงด้วยตัวเองเพราะงานยุ่งบ้าง อยู่ไกลบ้าง บางคนก็เลิกเงินดึกบางทีตี 2 ตี 3 แต่อย่ากดูดวงเช็คชะตา ทีนี้พอคุยกันใน line และรู้ว่าเราสามารถดูผ่านทางโทรศัพท์ได้ก็เลยโทรมา ทีนี้บ้างครั้งไม่ได้โทรมาเวลาปกติเพราะเขาเลิกงานดึก บางคนโทรมาตี 1 บางคนตี 2 ดึกสุดตี 4 ก็มี พรรรคพวกและลุกศิษย์เลยตั้งฉายาให้ว่าหมอดู 7-11 หรือหมอดู 24 ชั่วโมง (ยิ้ม)

Galato : ดูผ่านโทรศัพท์ได้ด้วยหรือครับ?

อ.อภินันท์ : ครับเป็นการดูแบบสื่อจิตเพระาเราต้องใช้พลังมากกว่าเดิม ขอบารมีแรงครูช่วยให้การดูผ่านทางโทรศัพท์ประสบผลสำเร็จซึ่งก็ได้ผลนะหลายคนที่เคยดูแล้วก็กลับมาดูอีก บางคนก็พาเพื่อนมา

Galato :  โอ้โห แบบนี้อาจารย์คงรวยน่าดูเลยนะครับ

อ.อภินันท์ : (หัวเราะ) ไม่หรอกครับทุกวันนี้ยังบ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้ออยู่เลย ดูดวงแต่ละครั้งก็ไม่ได้แพงอย่างใครเขาแค่ 300 บาทเท่านั้นเอง เชื่อไหมครับแทบไม่เหลือ เพราะพอได้มาวันรุ่งขึ้นก็เงินในส่วนนี้แหละครับที่เราต้องนำไปทำบุญให้กับผู้ที่มาดูเพราะเป็นการทำบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรเขาที่เปิดทางให้เราดู และการทำบุญของเรานั้นแค่ทำบุญไม่พอครับยังต้องทำสังฆทานเพื่อแก้เคล็ดให้กับผู้ที่มาดูอย่างเช่นหากเขามีปัญหาเรื่องความรักเราก็ต้องทำสังฆทานและต้องมีน้ำตาลใส่ไปด้วยเพื่อช่วยแก้เรื่องความรัก หากเขามีปัญหาสุบภาพก็ต้องซื้อยารักษาโรคไปทำบุญ แล้วก็รู้ๆ กันว่าของสมัยนี้ราคาไม่ใช่บาทสองบาท สังฆทานชุดหนึ่งเป็นร้อยก็ใช้เงินตรงนี้แหละครับไหนจะค่ารถค่ารา พอหักนู่นหักนี่แล้วเหลือ 50 บาทก็มีแต่เราก็ภูมิใจเพราะได้ใช้วิชาเพื่อช่วยเหลือคนจริงๆ


       ใจจริงเราอยากจะคุยกับอาจารย์อภินันท์มากกว่านี้แต่เหลือบไปเห็นมีคนนั่งรอดูดวงอยู่่จึงจำต้องขอลา ดังนั้นหากใครที่อยากรู้จักอาจารย์อภินันท์เจ้าของฉายาหมอดู 24 ชั่วโมงที่ดูดวงด้วยไพ่พรหมญาณผสานจิตสัมผัสสามารถติดตามได้ที่แฟนเพจ "อภิพรหมญาณ" หรือแอดไลน์ ninintaree ไปก็ได้ครับอาจารย์ยินดีให้คำปรึกษาทุกท่าน หรือลองเข้าไปติดตามบล็อค "อภิพรหมญาณ" ครับตอนนี้อาจารย์จะพยายามอัพเดทเนื้อหาที่น่าสนใจอยู่บ่อยๆ ครับ


                                                                                                                กาลาโต้
วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 | By: กาลาโต้

Blend Storming : งานเข้า Mezzo Coffee! เพราะระบบไม่ดีหรือว่าเป็นที่พนักงาน



       สวัสดีคนรักกาแฟทุกท่านครับ หากยังพอจำกันได้มีหลายครั้งเลยทีเดียวที่ผมได้กล่าวถึงร้านกาแฟกับการให้บริการว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญมากที่สุดในธุรกิจนี้จนถึงขนาดกล้าที่จะกล่าวว่าร้านกาแฟจะรวยหรือจะเจ๊งก็อยู่ที่พนักงานและการบริการนั่นแหละครับ ดังนั้นร้านกาแฟส่วนใหญ่ที่มีมาตรฐานจึงมักมีการอบรมพนักงานก่อนการปฏิบัติงานจึงเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดแต่ถึงอย่างไรก็ตาทีมันก็อาจจะมีบ้างที่หลุดรอดสายตาออกมาแต่มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาถ้าหากไม่มีคนร้องเรียนแต่สำหรับกรณีที่ผมจะพูดถึงต่อไปนี้ต้องเรียกได้ว่า "งานงอก" ของจริงครับเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันดันไปกระจายอยู่บนสื่อสังคมชุมชนออนไลน์ขนาดใหญ่อย่าง pantip เข้าเรื่องที่ว่าเล็กจึงกลายเป็นไฟลุกโดยปริยาย


       สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้เกิดจากการที่ลูกค้าคนหนึ่ง (ซึ่งเป็นสมาขิกเว็บ pantip) ได้ไปใช้บริการร้านกาแฟ Mezzo Coffee สาขาเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะโดยได้ใช้โปรโมชั่นที่ร้านร่วมกับ The 1 Card โดยใช้แต้ม 500 แต้มแลกกาแฟได้ 1 แก้ว ซึ่งเจ้าของกระทู้ก็ได้ใช้สิทธิ์ที่ควรได้ในตอนนั้นแต่กลับกลายเป็นว่าพนักงานทั้งร้านไม่สนใจ ไม่ใส่ใจราวกับว่าเป็นของฟรีไม่ได้เงินรวมไปถึงยังมีเหตุการณ์ที่บังคับให้เจ้าของกระทู้ต้องกดแลกคะแนนใหม่อีกรอบอีกด้วยดังนั้นจึงได้กลายมาเป๋นประเด็น talk of the town ใน pantip จนถึงขนาดเป็นกระทู้แนะนำเลยทีเดียวเชียวครับ



       ประเด็นในเรื่องนี้มีความน่าสนใจอยู่อย่างหนึ่งซึ่งก็คือถึงแม้ว่าในเรื่องของการบริการของพนักงานที่สมาชิกอีกหลายๆ คนกล่าวตรงกันว่าไม่ค่อยมี service mind เท่าที่ควรก็ตามทีแต่สิ่งหนึ่งที่มีส่วนทำให้กลายเป็นปัญหา เป็นเรื่องรางขึ้นมาก็คือการกดแลกคะแนนแล้วมีข้อความตอบรับขึ้นมาซึ่งไม่ใช่ sms ซึ่งหากเผลอกดปิดไปก่อนที่พนักงานจะจดเสร็จหรือพนักงานขอดูอีกครั้งเป็นอันจบเห่ครับเพราะข้อความตรงนั้นจะหายไปในทันที ไม่สามารถเรียกกลับมาดูได้อีกครั้ง (ซึ่งในเรื่องนี้ผมเองก็เคยเจอกับตัวตอนไปใช้สิทธิ์ลด 5 บาทที่ร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันเจ้าหนึ่งแต่ดันเผลอคิดว่าพนักงานจดไปแล้วจึงปิดปรากฎว่าพนักงานยังไมไ่ด้จดเลยกดอีกทีคราวนี้ขึ้นว่าใช้สิทธิ์ไปแล้วให้รออีก 15 วันจึงใช้ได้ ทำให้ต้องจ่ายเงินเต็มไปตามระเบียบ) ปัญหาตรงนี้ควรจะแก้อย่างไรเพราะผมเชื่อว่าหลายคนคงต้องเคยประสบปัญหาเช่นนี้อย่างแน่นอน บางคนอาจจะแนะนำว่าให้พนักงานกดเองจะได้ไม่มีปัญหา หรือบางคนบอกว่าใช้วิธีการ Cap หน้าจอไว้เพื่อเป็นหลักฐานซึ่งวิธีหลังนี้ต้องบอกว่าร้านหลายร้านไม่ยอมรับครับหาว่าเป็นการนำสิทธิ์มาใช้ซ้ำ ๆ ดังนั้นหากทางเจ้าของโปรโมชั่นมีวิธีที่รัดกุมมากกว่านี้ก็น่าจะช่วยลดปัญหาเดิมๆ ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ไปได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ

       เรื่องดราม่าที่ว่าจะจบลงเช่นไรก็คงต้องติดตามกันต่อไปและหากใครอยากอ่านเรื่องแบบเต็มๆ ก็ตามไปอ่านต่อได้ ที่นี่ ครับ

                                                                                                                     กาลาโต้
วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 | By: กาลาโต้

PR News : ชุ่มฉ่ำรับหน้าฝนกับ 2 เมนูใหม่ที่ The Coffee Bean & Tea Leaf®


       ถึงแม้ว่า The Coffee Bean & Tea Leaf เขาจะมีชื่อเรื่องกาแฟระดับพรีเมียมก็ตามทีแต่เรื่องของชาของเขาก็ไม่เป็นรองใครเลยนะครับ เรียกได้ว่าหากได้ลิ้มลองแล้วจะติดใจ ซึ่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเดือนส่งท้ายฤดูร้อน ต้อนรับฤดูฝนที่ชุมฉ่ำนี้ ทาง The Coffee Bean & Tea Leaf เขาก็ได้ออกสุดยอดเครื่องดื่มประจำฤดูขึ้นมา 2 เมนูด้วยกันได้แก่ Sparkling Peach Bellini และ Sparkling Raspberriteani ครับ


              Sparkling Peach Bellini นั้นเป็นเครื่องดื่มชาที่ใส่ไอเดียเก๋ไก๋ตามแบบฉบับของเครื่องดื่มสุดชิค อย่างเบลลินี่ มีความหอมละมุนของชา Apricot Ceylon ที่เข้ากันได้ดีกับเนื้อพีชเข้มข้น ทำให้ชวนสดชื่นกระฉับกระเฉงปลุกพลังในร่างกาย คลายร้อนได้แบบไม่เหมือนใคร


       ส่วนเจ้า Sparkling Raspberriteani นั้นเป็นเครื่องดื่มอีกตัวที่หยิบเอาความละมุนเคลิบเคลิ้มคลาสสิคในสไตล์มาร์ตินี่มารวมไว้ด้วยกันแต่ได้เพิ่มความหอมหวานซ่อนเปรี้ยวแสนเก๋จากเนื้อราสเบอร์รี่เข้มข้นที่เข้ากันได้ดีกับชา Tropical Passion เข้าไป รับรองได้ว่าอร่อยจนอยากจะสั่งเพิ่ม

       ถึงแม้ว่าผมเองจะเป็นคนที่ไม่ชอบทานชาแบบนี้มากมายสักเท่าไหร่นักก็ตามทีแต่เมื่อได้ลิ้มลองและสัมผัสแล้วต้องบอกว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ทางรสชาติใหม่ๆ ให้กับชีวิตจริงๆ ครับ เอาเป็นว่าหากใครอยากมีประสบการณ์ร่วมเช่นนี้เชิยไปลิ้มลองกันได้ที่ร้าน The Coffee Bean & Tea Leaf  ทุกสาขาทั่วประเทศไทยได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปแต่ต้องรีบกันหน่อยนะครับเพราะเมนูพิเศษนี้มีเพียงแค่ถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้เท่านั้น ช้าหมด อดแน่นอนครับ!

                                                                                                 

                                                                                                                 กาลาโต้


       ปล. มีข่าวฝากมาว่าวันที่ 8 พฤษภาคม นี้ The Coffee Bean & Tea Leaf  เขาเปิดสาขาใหม่ที่ Central Embassy ซึ่งสาขานี้จะมีรูปแบบที่แปลกตาไปจากสาขาอื่นๆ ทั่วไป ท่านที่สนใจเชิญไปเยี่ยมเยียนกันได้ครับ