ผมเชื่อว่าคงไม่มีคอกาแฟคนใดที่นั่งทานกาแฟอยู่ร้านใดร้านหนึ่งอย่างเดียวตลอดทั้งชีวิตเป็นแน่แท้ ความสุขอย่างหนึ่งของคอกาแฟก็คือการได้ออกไปลิ้มรสกาแฟใหม่ ณ สถานที่ใหม่ๆ การเก็บเกี่ยวรสชาติกาแฟไปพร้อมๆ กับบรรยากาศในร้านนั่นแหละครับคือความสุขที่สุดของคนรักกาแฟ
หลายครั้งเลยทีเดียวที่เราถ่ายรูปบบรยากาศร้านเพื่อเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำ ถ่ายรูปถ้วยกาแฟแล้วอัพสถานะขึ้น Social Network ไม่ว่าจะเป็น Facebook Twitter หรือแม้แต่กระทั่ง Instagram เพื่อบอกให้โลกได้รู้ว่า "ร้านนี้น่ะฉันเคยมาลองแล้วนะ" นั่นก็คืออีกหนึ่งกิจวัตรสำหรับคนรักกาแฟและในวันนี้ผมเองก็มีอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่คนรักกาแฟทุกคนไม่ควรพลาดรวมถึงตัวผมเองด้วยนั่นก็คือ "Coffee Passport" นั่นเองครับ
Coffee Passport เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ทางนิตยสารกาแฟอย่าง Coffee Traveler จัดขึ้นมาในวาระที่นิตยสารของเขามีอายุครบ 2 ปีและกำลังจะก้าวขึ้นสู่ปีที่ 3 ด้วยแนวคิดที่ว่าในเมื่อคนส่วนใหญ่ที่ชอบทานกาแฟก็มักจะเดินทางเพื่อไปหาร้านกาแฟอร่อยๆ ทานอยู่แล้วดังนั้นทำไมเราจึงไม่คัดเลือกร้านดีๆ เพื่อให้คนรักกาแฟเหล่านี้ไปลิ้มรสกันล่ะ จึงได้มีการคัดเลือกร้านกาแฟจากทั่วประเทศจำนวน 12 ร้านขึ้นมาเพื่อแนะนำให้คนรักกาแฟทุกคนได้มีโอกาสไปลิ้มลองกันและเพื่อให้เหมาะสมกับการเป็น Coffee Traveler จึงได้มีการทำ Passport สำหรับคนรักกาแฟขึ้นมาโดยเมื่อเราไปใช้บริการยังร้านกาแฟทั้ง 12 ร้านนั้นเราก็จะปั๊มตราร้านลงใน Coffee Passport ซึ่งเมื่อประทับตราครบทั้ง 12 ร้านแล้วก็สามารถนำไปแลกของรางวัลได้ซึ่งมีตั้งแต่ครื่องชงกาแฟ Gift Voucher เมล็ดกาแฟคุณภาพ คอร์สเรียนชงกาแฟ ห้องพักรีสอร์ทหรู และก็ Temper สวยๆ รวมถึงของรางวัลอื่นๆ อีกมาก ซึ่งหากเราไม่ต้องการแลกก็สามารถเก็บ Passport ตัวนี้เอาไว้เป็นที่ระลึกก็ได้ครับ
จุดเด่นอีกประการหนึ่งที่ทำให้ผมชอบเจ้า Coffee Passยort เล่มนี้ก็คือเขามีการจำลองให้เหมือนกับ Passport จริงๆ ด้วยการมีการติดรูปถ่ายพร้อมชื่อ นามสกุลของเรา ไว้ในเล่ม เพื่อให้รู้ว่าเราเป็นเจ้าของตัวจริงอีกด้วยครับ
มาถึงตอนนี้แล้วเชื่อว่าหลายคนคงอยากจะรู้ว่าทำอย่างไรจึงจะได้เจ้า Coffee Passport นี้มาครอบครองและมีค่าใช้จ่ายในการจัดทำอย่างไร ซึ่งตรงนี้บอกเลยครับว่า "ฟรี" ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นเพียงแค่เข้าไปใน facebook ของ Coffeetraveler magazine แล้วอินบ็อกซ์ส่งรูปถ่ายของเรา แจ้งชื่อที่อยู่เพื่อให้ส่ง Passport กลับมาแค่นี้ก็รอรับอยู่ที่บ้านได้เลยครับ
ใครที่สนใจก็สามารถขอทำ Coffee Passport ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปครับซึ่งผมเองก็ทำเรียบร้อยแล้ว ไม่แน่ครับว่าด้วย Coffee Passport นี้อาจทำให้เราได้มีโอกาสเจอกันที่ร้านใดร้านหนึ่งก็เป็นได้
กาลาโต้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น