สวัสดีคนรักกาแฟทุกท่านครับ
สำหรับรื่องที่ผมจะพูดถึงในวันนี้นั้นสืบเนื่องมาจากการท่องเน็ตตามประสาคนชอบอ่านไปเรื่อยๆ ของผมจนทำให้วันหนึ่งมีโอกาสได้พบกับบทความๆ หนึ่งที่เขาเปรียบเทียบกันระหว่างกาแฟเงือกเขียวอย่าง Starbucks กับกาแฟรถเข็นในทำนองที่ว่าถึงแม้ว่ากาแฟ Starbucks จะขายราคาแพงก็ตามทีแต่ถ้าหากว่าลองเอามันมาเปรียบเทียบต้นทุนกับกาแฟรถเข็นแล้วเราจะรู้ว่ากำไรต่อแก้วของกาแฟ Starbucks นั้นจะน้อยกว่ากาแฟรถเข็นธรรมดาๆ พร้อมทั้งอธิบายเอาไว้อย่างชัดแจ้งเบ็ดเสร็จเลยครับว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นตามประสานักวิเคราะห์ที่น่าจะจบทางด้านการตลาดมาซึ่งผมเองนั้นเมื่อได้อ่านก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจดังนั้นจึงได้ตัดสินใจที่จะนำเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ทุกท่านได้ฟังกันครับ
ในบทความดังกล่าวนี้เขาพูดถึงเรื่องของอัตรากำไรสุทธิต่อแก้วของ Starbucks ที่ตกอยู่ราวๆ 13% ซึ่งถ้าหากเทียบกับกาแฟรถเข็นที่หลังจากหักต้นทุนต่างๆ ที่จำเป็นออกไปแล้วกาแฟรถเข็นมีกำไรต่อแก้วมากถึง 67% เลยทีเดียวเชียวล่ะครับซึ่งฟังดูแล้วมันไม่น่าจะเป็นไปได้ใช่ไหครับซึ่งแรกเริ่มเดิมทีผมเองก็คิดเช่นนี้แต่เมื่อได้อ่านต่อไปจนจบเลยทำให้รู้ว่ามัน "เป็นจริง" ดังที่เขากล่าวอ้างครับเพราะค่าใช้จ่ายที่ทำให้อัตรากำไรต่อแก้วของ Starbucks นั้นน้อยกว่าที่ควรจะได้ก็คือ "ต้นทุนค่าเช่าร้าน" นั่นเองเพราะเนื่องจากว่าร้านกาแฟ Starbucks นั้นเป็ฌนร้านกาแฟที่เปิดโดยการเช่าพื้นที่ซึ่งโดยมากจะอยุ่ในห้างสรรพสินค้าดังนั้นอัตราค่าเช่าพื้นที่ของมันจึงค่อนข้างสูงทำให้กำไรที่ควรจะได้หมดไปกับเรื่องนี้เสียป็นส่วนใหญ่ในขณะที่กาแฟรถเข็นนั้น cost หรือต้นทุนเรื่องค่าเช่าที่เป็น 0 หรือแทบจะไม่มีดังนั้นมันจึงทำให้กำไรของกาแฟรถเข็นต่อแก้วมีมากกว่ากาแฟ Starbucks ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องครับ
แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่ากำไรต่อแก้วของกาแฟ Starbucks จะน้อยกว่ากาแฟรถเข็นแต่เมื่อรวมยอดขายทั้งวันหรือยอดขายขายตลอดการขายทั้งเดือนแล้วเราเองจะรู้เลยครับว่ากำไรรวมของกาแฟ Starbucks นั้นมีสูงหรือมากกว่ากาแฟรถเข็นกว่ามากจนแทบจะเทียบกันไม่ได้ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่า Starbucks ได้การขายที่เป็นปริมาณนั่นเองครับเพราะคนส่วนใหญ่ถ้าต้องเลือกดื่มกาแฟดีๆ สักแก้วหนึ่งเขาก็คงเลือกที่จะดื่มกาแฟ Starbucks มากกว่ากาแฟรถเข็นเพราะอย่างน้อยรถชาติของกาแฟ Starbucks นั้นมีมาตรฐาน ใช้เมล้ดกาแฟที่ได้คุณภาพและที่สำคัญที่สุดคือ "ชงทุกครั้งก็ได้รสชาติเหมือนเดิมทุกครั้ง" แถม Brand Starbucks เองนั้นก็เป็น Brand กาแฟชื่อดังมีที่มีสาขาและมีคนรู้จักทั่วโลกดังนั้นถึงแม้ว่าอัตรากำไรเฉลี่ยต่อแก้วจะน้อยแค่เมื่อรวมๆ แล้วมันกลับกลายเป็นกำไรที่มากมายมหาศาลเข้าทำนอง "ทรายเม็ดเล็กๆ ที่สะสมจนกลายเป็นกองทรายกองใหญ่ๆ นั่นแหละครับ
สำหรับข้อคิดในบทความตอนนี้คงไม่มีอะไรมากครับเป็นเพียงแค่การเล่าสู่กันฟังส่วนใครที่อยากจะอ่านบทความที่ผมว่านี้แบบเต็มๆ ก็สามารถคลิกเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยครับ แล้วพบกันใหม่ในครั้งหน้า สวัสดีครับ
กาลาโต้
Source : finnomena.com
1 ความคิดเห็น:
While using macaques within Thailand one example is, one could have realized they might work with a follicle associated with our head of hair for getting troublesome items of nutrition away from their own the teeth and also the some others will present ripped. https://imgur.com/a/gNFQTdY https://imgur.com/a/yWDZPCB https://imgur.com/a/X44htIz https://imgur.com/a/HUMBEg7 https://imgur.com/a/mTDGoz6 https://imgur.com/a/uxkmjQ0 https://imgur.com/a/DJw695y
แสดงความคิดเห็น