The Bookmark : ตำราแห่งประสบการณ์ที่ความล้มเหลวคือกำไร
สำหรับคนที่ชื่นชอบในรสชาติของกาแฟแล้วคงไม่มีความฝันใดที่ดีไปกว่าการเป็นเจ้าของร้านกาแฟในฝันสักร้านหนึ่ง บางคนเพียรพยายามเก็บเล็กผสมน้อยคอยสะสมเงินตราที่มีอยู่เป็นทุนรอนในการสร้างฝันให้เป็นจริงในขณะที่อีกหลายๆ คนก็พยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงก่อนบินเดี่ยวเปิดร้านด้วยการเป็นลูกจ้างตามร้านกาแฟต่างๆ ส่วนคนที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรหรือทำแบบไหนเชื่อได้ว่าหนังสือประเภท "howto" ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ผมเองก็ยังมีติดบ้านอยู่หลายๆ เล่มเหมือนกัน
สำหรับหนังสือ howto เกี่ยวกับธุรกิจกาแฟในบ้านเราตอนนี้มีออกมาหลายต่อหลายเล่ม บางเล่มก็เน้นหนักทางด้านวิชาการ บางเล่มก็เน้นด้านกรรมวิธี แทบทุกเล่ม ทุกหัว มัก focus ไปที่ความสำเร็จในการเปิดร้านกาแฟทั้งสิ้น มองในแง่หนึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีที่เสริมสร้างกำลังใจให้กับผู้ที่จะเริ่มเข้ามาคลุกคลีกับธุรกิจนี้ แต่ถ้ามองให้ดีมันคือ "การสร้างวิมานในอากาศ" หรือเปล่า??
มีคนหลายคนที่ทำตามหนังสือแล้วเจ๊ง
มีคนหลายคนไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงทั้งการจัดการร้านหรือปรับปรุงเมนูให้เหมาะสมเพราะทำตามที่หนังสือบอก
แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่ผมกำลังเริ่มที่จะเอียนกับหนังสือ howto เหล่านี้กลับได้พบหนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ผมถือว่าไม่ใช่เป็นเพียง pocket book ปกิณกะเพื่อความบันเทิงธรรมดา หากแต่เป็น "ตำราแห่งประสบการณ์" ที่หนังสือ howto เหล่านั้นเทียบไม่ติดเลยทีเดียว นั่นก็คือหนังสือ "เรื่องเล่าร้านกาแฟ" นั่นเอง
เมื่อเหรียญมี 2 ด้านฉันใด การทำธุรกิจก็ย่อมมี 2 ด้านเช่นกันคือถ้าไม่รวยก็เจ๊งไปเลย นั่นคือตรรกะง่ายๆ ของโลก เพียงแต่มนุษย์เรามักจะมองในด้านที่ตัวเองได้ประโยชน์เสียส่วนใหญ่จึงมักจะหลีกเลี่ยงที่จะมองอีกด้านของจริงเสมอๆ
หนังสือเรื่องเล่าร้านกาแฟนี้ถือเป็นตำรา case study อีกเล่มหนึ่งที่บรรดาผู้ที่คิดหรือกำลังจะเปิดร้านกาแฟควรจะมีติดกาย ติดหิ้งหนังสือไว้ เพราะผู้เขียนคือคุณสุพัตราได้ถ่ายทอดประสบการณ์จริงในการเปิดร้านกาแฟของตนเองกลั่นเป็นตัวหนังสือบทความไว้ในหนังสือเล่มนี้ หากเพียงแต่สิ่งที่เธอสื่อนั้นก็คือการเปิดร้านกาแฟแล้ว "เจ๊ง" ไม่เป็นท่านั่นเอง
ผู้เขียนได้เล่าถึงที่มาในการเปิดร้านกาแฟของตนเองที่เริ่มต้นด้วยความฝันเหมือนกับใครอีกหลายต่อหลายคนจนกระทั่งมีร้านกาแฟเป็ของตนเอง เล่าถึงวิธีการทำทุกวิถีทางให้ร้านกาแฟอยู่รอด จนกระทั่งมาถึงบทสรุปสุดท้ายของความเป็นจริงที่ว่าเมื่อทำเต็มที่จนไม่สามารถรับไหวแล้วก็ต้องปิดตัวลง อาจจะเป็นความจริงที่น่าเจ็บปวด แต่มันก็คือความจริง อย่างน้อยแม้จะขาดขุนแต่ก็ถือว่าได้ประสบการณ์เป็นกำไร แถมเป็นกำไรที่หาได้ยากเสียด้วยเพราะบางทีเงินก็ซื้อประสบการณ์ไม่ได้เสมอไป
ผมไม่ได้บอกว่าเมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะทำให้ผู้ที่คิดเริ่มต้นท้อแท้ เพียงแต่อยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นเข็มทิศชี้ทางมากกว่า เพราะเมื่อมีคนเดินผิดพลาดแล้วก็ไม่อยากให้คนอื่นต้องเดินตามรอยผิดพลาดนั้น อย่างน้อยก็โชคดีที่ไม่ต้องเสียเงินและเวลาซื้อประสบการณ์เหมือนกับผู้เขียนและขอให้ผู้ที่คิดจะเปิดร้านกาแฟทุกท่านโชคดีในการเปิดร้านกาแฟทุกท่าน สวัสดีครับ
กาลาโต้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
1 ความคิดเห็น:
ทำบล็อกได้สวยมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น